Wednesday, July 17, 2013

มารู้จักประเภทของไอศกรีมกันมั้ยคะ

สวัสดีค่าทุกคน
พอดีว่าเมื่อวันก่อนมีเพื่อนเดินตีหน้ายุ่งๆ เข้ามาแล้วถามว่า "ฟีๆ~ ไอ้เจลาโต้นี่มันไม่เหมือนไอติมทั่วไปยังไงฟระ"
เล่นเอาคนรักเจลาโต้แบบโซฟีรับไม่ด้ายยยยยยยยยยย....กรี๊ดๆ แกไปอยู่ไหนมาเนี่ยยยยยย~!!!! เค้าพูดถึงก็ออกบ่อยเยี่ยงนี้

ครั้น มานึกได้ว่า หลายคนคงยังแยกความแตกต่างของไอศกรีมแต่ละประเภทไม่ค่อยออก (เนื่องจากเค้าไม่ได้ตระเวนชิมแบบไม่ห่วงงบอย่างเรานั่นเอง-*-)
ก็ เลยเห็นว่าไหนๆ ก็อธิบายให้เพื่อนเลิฟฟังไปแล้ว ก็ว่าจะเอามาเล่าให้เพื่อนๆ ได้รู้จักประเภทของไอศกรีมกันมากขึ้นค่ะ เพราะเผื่อเอนทรีหน้าๆ ฟีอาจจะโม้ว่า"เมื่อวานฟีไปกินกานิเต้แถวสุขุมวิทมาล่ะ กรี๊ดๆ อร่อยมาก" จะได้ไม่งงไงคะ^^

ก่อน อื่นต้องบอกก่อนว่า ฟีก็ไม่ได้เป็นกูรูอะไร แต่อาศัยความที่เที่ยวหาข้อมูลเพราะชอบ และจากประสบการณ์ที่เคยได้ลองทานมา เอามาเล่าสู่กันฟังนะคะ
อีกอย่างฟีจะพยายามเขียนในมุมมองที่ไม่วิชาการมากนะคะ เพราะฟีอยากให้เพื่อนๆเห็นภาพ และเข้าใจง่ายๆกันมากกว่า
เพราะ จากการหาข้อมูลของฟีเจอแต่กูรูเก่งๆ อธิบายแบบละเอียด แต่เล่นเอามึนไปหลายยกเลย แถมยังต้องไปหาเว็บอื่นต่ออีก ว่า"แล้วตกลงไอ้ตัวนี้กับตัวนี้มันต่างกันตรงไหนละฟะ ไอ้คำนี้มันแปลว่าอะไรเนี่ย!! เกิดมาสิบหกปีไม่เคยพบพาน" ประมาณนั้นค่ะ-*-

ไอศกรีมเนี่ย ถ้าแบ่งประเภทจริงมีเยอะมากค่ะ แต่ถ้าเอาที่ดังๆ ที่คนไทย "เคยได้ยินนะ แต่มันเป็นไงเหรอ" ก็มีตามนี้ค่ะ

1. Standard Ice Cream
ก็ คือไอศกรีมที่เป็นไอศกรีมปกตินี่ล่ะค่ะ มีส่วนผสมของนมกับน้ำตาล แล้วก็ไม่ได้เติมพวกสารคงตัว หรืออัดอากาศ ดังนั้นเนื้อไอศกรีมจะแน่นค่ะ พวกนี้ฟีสังเกตว่าจะเป็นพวกไอศกรีมโฮมเมด เป็นส่วนใหญ่น่ะค่ะไอติมทอด

2.Low fat และ Non fat
สอง ตัวนี้เป็นของโปรดสำหรับคนรักของหวาน แต่ยังกังวลเรื่องสุขภาพเลยล่ะค่ะ สำหรับไอศกรีมแบบ Low fat ก็คือมีไขมันน้อยนั่นเอง เท่าที่ฟีรู้มา เค้าบอกว่า Low fat เนี่ย เค้ากำหนดว่าต้องมีไขมันไม่เกิน 3 g. ต่อขนาดบริโภค 4 oz. (ประมาณ 100 g.) ค่ะไอติมทอด
ส่วนNon fat หรือ ไอศกรีมปราศจากไขมันเนี่ย ไม่ต้องถึงขั้นไขมัน 0% นะคะ นั่นก็เว่อร์ไป เสียรสชาติกันพอดี(อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวค่ะ^^) แต่เค้าก็กำหนดว่าไอศกรีมประเภทนี้ต้องมีไขมันน้อยกว่า 0.5 g. ต่อหน่วยบริโภค (serving) ค่ะ หน้าตาพวกนี้ก็เหมือนๆ ไอศกรีมทั่วไปนี่ล่ะค่ะ แต่ทางร้านเค้าก็จะมีโฆษณาบอกว่า ตัวนี้ low fat นะ แต่อันนี้จะเป็น non fat ประมาณนี้ล่ะค่ะไอติมทอด
        

3.Gelato
ตัว นี้ไงคะ ที่ทำเพื่อนเลิฟงงติ้ว^^ ที่เจลาโต้จะแตกต่างจาก Standard icecream (เพราะบางร้านเค้าจะเขียนว่า Gelato homemade อะไรประมาณนี้ใช่มั้ยคะ) คือเจลาโต้เนี่ยจะเป็นของภาคภูมิใจของคนอิตาลีค่ะ เพราะถือว่าเป็นต้นกำเนิดนั่นเอง เรียกว่าเป็นไอศกรีมสไตล์อิตาเลียนนั่นล่ะค่ะ
เอาให้นึกภาพก่อน ไอศกรีมแบบนี้เค้าจะใช้ที่ตักที่เป็นแบบแบนๆ น่ะค่ะ ดูตามรูปก็ได้ เค้าเรียกว่า Spatula ค่ะ (ส่วนที่ตักไอศกรีมทั่วไปเรียกScoop ทำให้ได้ไอศกรีมออกมาเป็นลูกๆไงคะ) เนื้อไอศกรีมจะแน่นกว่าโฮมเมดทั่วไปมาก ถ้ายังแยกความแน่นไม่ออก ก็ดูความหนืดก็ได้ค่ะ เวลาตักนี่จะเหนียวยืดเหมือนชีส(เว่อร์ไปมั้ย อ้าว~ลองดึงช้าๆ ดูสิคะ) สังเกตได้อีกอย่างว่าจะเหนียวติดช้อน ถึงแม้ว่าเราเม้มปากกินขนาดไหนก็ตาม เหนียวดี หลายๆ คนก็ชอบค่ะ
ที่เป็นอย่างนี้เพราะส่วนผสมของเจลาโต้มีส่วน ผสมของไข่แดงและของแข็งทั้งหมดสูงมากค่ะ เนื้อไอศกรีมเลยข้นแล้วก็ไม่ฟู (ฟีว่าน่าจะเป็นเพราะความหนักของมัน เลยฟูไม่ขึ้นแน่เลย^^)
ร้านพวกเจลา โต้ตอนนี้ถือว่าดังในเมืองไทยพอควรนะคะ เดินไปไหนก็เจอ แต่ราคาสูงมากพอดูอยู่ ไม่รู้แพงเพราะอะไร กูรูคนไหนผ่านมาช่วยให้ความกระจ่างด้วยนะคะไอติมทอด
แนะ นำร้านที่ฟีเข้าบ่อยๆก็แอ งเจลาโต (angelato) ที่ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิตค่ะ (จะได้ค่าโฆษณามั้ยเนี่ย >_<) ส่วนใครอยากลองหาทานดู แล้วไม่อยากเสี่ยงกับราคาเวอร์ๆก็แนะนำ Gelatoni ค่ะ ถ้าจำไม่ผิดจะอยู่ที่ BTS สยาม แล้วก็ BlackCanyon บางสาขาก็จะมีค่ะ
อันนี้รูป spatula ค่ะ เค้าจะตักไอศกรีมมาใส่เลย ไม่ค่อยจัดให้เป็นลูกกลมๆ แบบที่เรียกว่าสกู๊ปไอติมทอด
  

4.Sherbet
อัน นี้หลายคนคงได้ยินกันบ่อย อย่างเช่น เชอร์เบ็ตส้ม หรือมะนาวเชอร์เบ็ต แล้วก็เลยเข้าใจว่าเป็นไอศกรีมรสผลไม้เปรี้ยวๆ จริงๆ แล้วเชอร์เบ็ตนี่คือไอศกรีมผลไม้เลยล่ะค่ะ คือมีรสผลไม้ ไม่ว่าจะหวานจะเปรี้ยว จะมัน จริงๆ ที่ตอนนี้สเวนเซนส์เค้ามีเทศกาลมะม่วง ฟีไปถามกูรูคนนึงเค้าก็บอกว่าแบบนั้นก็ถือเป็นเชอร์เบ็ตเหมือนกันค่ะไอศครีมทอด
เชอร์ เบ็ตนี่คนรักสุขภาพ ถ้าเริ่มเบื่อๆกับ low fat หรือ non fat แล้ว ก็ลองมาหาทานได้นะคะ แม้จะไม่ไขมันต่ำเท่า แต่ก็ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับไอศกรีมปกติค่ะ เพราะมีส่วนผสมของผลไม้ด้วยนั่นเองไอศครีมทอด
  

5.Soft Serve หรือ Soft Icecream
บอกชื่อแรกหลายคนคงทำหน้างงๆ แบบว่าคุ้นแต่นึกไม่ออก พอชื่อหลังคงร้อง อ๋อออออออ~ใช่มั้ยคะ
เดี๋ยวค่ะ ยังมีคนงงอยู่^^
ซอฟท์ ไอศกรีม ก็พวกไอศกรีมแบบเนื้อนุ่มๆ ที่เค้าบีบใส่โคนน่ะค่ะ  เอ้า!!ยังนึกไม่ออกอีก ก็พวกไอศกรีมอย่างของแมคโดนัลด์,KFC อะไรพวกนี้ไงคะ ที่เป็นเครื่อง พอเราไปสั่งเค้าก็ดึงคันโยกแล้วให้มันเป็นชั้นๆ แบบนี้อ่าไอศครีมทอด
ไอศกรีม พวกนี้เค้าจะมีส่วนผสมที่ไม่เหมือนไอศกรีมทั่วไปนะคะ (คือแน่นอนว่าต้องมีนมกับน้ำตาลล่ะน่า) แต่พวกสารคงตัว หรือการอัดอากาศเค้าจะไม่เหมือนกัน ทำให้ได้ไอศกรีมที่มีรูปร่างต่างจากไอศกรีมประเภทอื่นที่เป็นแบบตักไอศครีมทอด
อีกอ ย่างซอฟท์ไอศกรีมนี่เค้าจะเอาส่วนผสมใส่เครื่องแล้วบีบใส่โคนเลย ไม่ต้องแช่แข็ง แล้วพวกนี้จะมีไขมันต่ำกว่าไอศกรีมตักทั่วไป ถ้าไม่นับพวกไขมันต่ำกับไร้ไขมันนะคะ^^~
   

6.Granite/Granita
อ่านว่า กรานิเต้ นะคะเป็นภาษาฝรั่งเศส ส่วน กรานิต้า เป็นภาษาอิตาลีค่ะ
พวก นี้เนื้อจะไม่เนียนแบบอันอื่นๆที่เขียนมานะคะ ดูๆไป อาจจะคิดว่าเป็นน้ำแข็งไส แต่ไม่ใช่นะคะ เค้าเอาน้ำหวาน(หรือน้ำผลไม้ อันนี้ไม่ชัวร์ค่ะ) ไปแช่แข็ง แล้วเอามาขูดๆ ให้ออกมาเป็นเกล็ดน้ำแข็งน่ะค่ะ ในไทยก็มีหลายร้าน อย่าง Sfree ล่ะค่ะ ที่เห็นเด่นๆ ร้านนี้เค้าจัดออกมาน่ากินมาก รู้สึกจะมีสาขาที่เซ็นทรัลพระราม3 ค่ะ ที่ฟีไปทานบ่อยๆ ก็ที่ฟิวเจอร์รังสิตล่ะค่ะไอศครีมทอด
ตัว นี้หลายคนคงเผลอปนกับ sherbet บางอันที่เนื้อไม่เนียน เป็นเหมือนเกล็ดน้ำแข็งอยู่ ส่วนใหญ่ร้านเค้าจะจัดมาให้ในรูปร่างไม่เหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นเชอร์เบ็ตจะยังมีความหนืดของไอศกรีมอยู่บ้าง ก็ตักมาเป็นลูกกลมๆได้ ส่วนกรานิเต้จะตักใส่เป็นน้ำแข็งไสมากกว่า(อันนี้เท่าที่เคยเห็นมานะคะ)


ยัง ไงก็ตาม ไม่ว่าจะไอศกรีมแบบไหน ก็แล้วแต่คนรักคนชอบค่ะ ใครชอบเนื้อเหนียวเคี้ยวมัน(แบบที่ฟีชอบเลย) ก็ต้องเจลาโต้ ใครอยากทานแต่กลัวอ้วนก็ low fat/non fat ว่ากันไปค่ะ แต่สำหรับโซฟีแล้ว ถึงชอบเจลาโต้ที่ความหนืด แต่จริงๆแล้ว แค่เป็นไอศกรีมก็ชอบหมดล่ะค่า~
เครดิต : อาจารย์พรหล้า ขาวเธียร; http://www.icecreamfanclub.com ,คุณกิตติมา ลี้ครองสกุล;Gourmet&Cuisine Magazine
อ้อ แล้วก็รูป ฟีไปค้นจาก Google เอาจากบล๊อกคนโน้นคนนี้เยอะมาก..เอาเป็นว่า ขอขอบคุณนะค้า~
ขอบคุณบทความจาก http://sophie-phieland.exteen.com/20090409/entry

No comments:

Post a Comment