Saturday, September 21, 2013

ติม10รสจากKorea

ติม10รสจากKorea
หน้าร้อนๆแบบนี้ของที่ ต้องมีติดบ้านคือไอศครีมค่ะ เกาหลีมีไอศครีมอร่อยๆหลากหลายแบบทีเดียว ใครมาเที่ยวเกาหลีแวะร้านสะดวกซื้อลองลิ้มรสชาติไอศครีมค่ะของเกาหลีกันค่ะ วันนี้ขอแนะนำไอศครีมรสโปรด 12 ชนิด
1) 메로나 (Melona Ice Bar)
Melonaภาพจาก www.bing.co.kr

หลาย คนอาจคุ้นตากับไอศครีมนี้เพราะเริ่มมีขายที่เมืองไทย Melona รสเมลอน (แคนตาลูป) เป็นไอศครีมเกาหลีที่คิดว่าชอบที่สุด เพราะมีรสหวานอ่อนๆและเนื้อไอศครีมนุ่มละมุนมาก ตอนนี้มีรสสตรอเบอร์รี่และรสกล้วยหอมด้วย แต่ชอบรสเมลอนมากกว่า
2) 끌레도르 (Cledor)
Cledorภาพจาก www.bing.co.kr

เป็น ไอศครีมระดับพรีเมี่ยมของบิงกือแร มีหลายชนิดทั้งชนิดโคน แท่ง และเป็นกล่องใหญ่ (pint) ที่ชอบที่สุดคือรส Espresso Coffee แบบแท่ง (อันล่างในภาพข้างบน) แต่ถ้าไม่เจอรสนี้บางทีก็ซื้อรสอื่นๆเช่น Cookie, Green Tea หรือ Mint หากใครชอบทานไอศครีมแบบโคนก็มีให้เลือกหลายรสชาติ ดูหน้าตาไอศครีม Cledor ทั้งหมด ที่นี่ไอศครีมทอด
3) 구구스타 (Goo Goo Star)
GooGooStar
ไอ ศครีมวานิลาผสมช็อคโกแลตแล้วเคลือบด้วยช็อคโกแลต ด้านบนมีถั่วลิสงชิ้นโตๆอยู่ด้วย ไอศครีมนี้ไม่มีแยกขายเป็นชิ้น กล่องหนึ่งมี 5 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีชนิดโคนและชนิดกล่องใหญ่ (pint) ด้วย รสชาติของ Goo Goo Star ไม่รู้จะบรรยายยังไงดีขอบอกแค่ว่าอร่อยสุดๆเลยค่ะไอศครีมทอด
4) 스크류 (Screw)
Screwภาพจาก www.lotteconf.co.kr
ไอ ศครีมหวานเย็นรสแอปเปิ้ลผสมสตรอเบอร์รี่ ขอบอกว่ารสชาติของไอศครีมนี้เหมือนไอศครีมรสสละเลย จึงเป็นเหตุผลที่ชอบทานไอศครีมนี้มาก ทานแล้วได้รสชาติไอศครีมแบบไทยๆไอศครีมทอด
5) 바밤바 (Babambar / Chestnut Bar)
Bababar
ไอศครีมรสเกาลัดที่มีเนื้อเกาลัดผสมด้วย รสชาติหวานอ่อนๆทั้งอร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายไอศครีมทอด
6) 메가톤 (Megaton)
Megaton
หน้า ตาไอศครีมนี้อาจดูไม่น่าดึงดูดเท่าไหร่ แต่หากใครชอบรสคาราเมลน่าจะชอบไอศครีมนี้ รสชาติหวาน มัน กลิ่นหอมๆเหมือนอมลูกอมคาราเมลเลยไอติมทอด
7) 비비빅 (Bibibig / Red Bean Ice Bar)
Bibibig
Bibibig เป็นไอศครีมรสถั่วแดงที่อยู่คู่เกาหลีมาเกือบ 40 ปีแล้ว (ตั้งแต่ปี 1975) หน้าตาของไอศครีมนี้ดูเรียบๆง่ายๆแต่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นเกาหลีแบบดั้ง เดิม เป็นไอศครีมที่มีเนื้อถั่วแดงผสมอยู่ในเนื้อไอศครีมมากทีเดียว ทั้งอร่อยและมีประโยชน์
8) 돼지바 (Pig bar)
BigBar
เป็น ไอศครีมวานิลาที่ด้านนอกกรุบกรอบไปด้วยเกล็ดช็อคโกแลต ส่วนในสุดจะมีไส้แยมสตรอเบอร์รี่ที่ไม่หวานจนเกินไป ใครที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าอยากทานไอศครีมช็อคโกแลตหรือสตรอเบอร์รี่แนะนำไอ ศครีมนี้เลยค่ะ
9) 죠스 (Jaws)
Jaws
ไอ ศครีมรสส้มผสมสตรอเบอร์รี่ที่แปลกทั้งชื่อและสีสัน เพราะเป็นสีเทาๆและทำรูปร่างให้คล้ายปลาฉลาม เมื่อกัดเข้าไปจะเห็นสีว่าด้านในมีสีชมพูของสตรอเบอร์รี่ด้วยไอติมทอด
Jaws2
10) 왕수박 (Watermelon Ice Cream)
WatermelonBar
ไอ ศครีมรสแตงโมเป็นไอศครีมที่น่ารัก เหมือนแตงโมทั้งรูปลักษณ์และรสชาติ ที่พิเศษไปกว่านั้นคือเหมือนมีเมล็ดแตงโมสีดำๆอยู่ในเนื้อไอศครีมด้วย (ทำจากช็อคโกแลต)
11) 보석바 (Jewel Ice Bar)
JewelBar
ไอ ศครีมรสโซดาที่หวานอ่อนๆช่วยดับร้อนได้ดี ไอศครีมนี้มีก้อนน้ำแข็งเล็กๆเป็นสีดูคล้ายเพชรพลอยอยู่กับเนื้อไอศครีม จริงๆเฉยๆกับไอศครีมนี้คิดว่าสำหรับผู้ที่ชอบเคี้ยวเกล็ดน้ำแข็งกรุบๆน่าจะ ติดใจไอศครีมนี้
12) 설레임 (Seoliem Shake)
Seoleimภาพจาก www.lotteconfblog.com

ติมถั่วแดง

(C) 2003 Gateway,Inc.
ส่วนผสม

ครีม 300 มิลลิลิตร
นมสด 300 มิลลิลตร
ไข่แดง 5 ฟอง
น้ำตาล 170 กรัม
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
ถั่วแดงบด 1 ถ้วย


วิธีทำ
ตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายป่นละเอียด ตีจนขึ้นฟู
ตีได้แบบนี้แหละ
ไอติมทอด
ผสมครีม นมสด และกลิ่นวานิลลาลงในหม้อ ไอติมทอดตั้งไฟกลาง จนนมร้อน แต่ไม่ต้องเดือด เอาแค่เป็นไอร้อนขึ้นมาและเป็นฟองที่ขอบหม้อ
เทนมร้อนลงในส่วนผสมของไข่แดงที่ตีไว้ โดยค่อย ๆ เทลงและตีส่วนผสมตลอด จนขึ้นฟูซักพัก
เอาโถเข้าแช่ตู้เย็นจนเริ่มแข็งตัว ของเราทิ้งไว้จนแข็งตัวไอศครีมทอด
จึงเอาออกมาใช้เครื่องตีจนส่วนผสมขึ้นฟู ประมาณ 5-7 นาที ก็เอาโถเข้าแช่ช่องฟรีซใหม่
แช่นาน 1 ชั่วโมง เอาออกมาทำเหมือนเดิมอีก เราทำแบบนี้ 3 ครั้ง ไอศครีมทอด
ครั้งที่ 4 เติมถั่วแดงบดลงไป ปั่นอีกทีไอศครีมทอด
นำเข้าช่องฟรีซ 30 นาที เอาออกมาปั่นรอบสุดท้าย ไอศครีมทอด
เทส่วนผสมที่ได้ใส่กล่อง เก็บเข้าช่องฟรีซข้ามคืน จึงรับประทานได้
ข้ามคืนล่ะ
ตักใส่แก้ว โซ้ยได้

ไอติมถั่ว(แดง)

art_41958500
เสิร์ฟ 15 สกูป
ระยะเวลาในการทำ 15-18 ชั่วโมง

1. นม 375 มิลลิลิตร
2. ครีม 375 มิลิลิตร
3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
4. น้ำตาลทรายสำหรับส่วนผสมไอศกรีม 1/2 ถ้วยตวง
5. กลูโคส 2 ช้อนโต๊ะ
6. ถั่วแดง 1 ถ้วยตวง
7. น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
8. น้ำตาลทรายสำหรับถั่วแดง 1 ถ้วยตวง
9. เกลือ 1/8 ช้อนชา
วิธีทำ
1.แช่ถั่วแดงในน้ำเปล่าประมาณ 8 ชั่วโมง หรือข้ามคืน แล้วจึงนำมาปั่นหยาบ ให้เมล็ดพอแตกไอศครีมทอด
2.ใส่น้ำตาลทรายสำหรบถั่วแดง และ เกลือลงในส่วนผสมถั่วแดง ต้มด้วยไปกลางให้พอเดือด จากนั้นจึงไอศครีมทอด
หรี่เป็นไฟอ่อน ตั้งเคี่ยวจนถั่วแดงนิ่ม และน้ำเริ่มแห้ง จึงยกออกจากเตาไอศครีมทอด
3.ในอีกหม้อหนึ่ง ผสมไข่ไก่ น้ำตาลทรายสำหรับส่วนผสมไอศกรีม และ กลูโคส ให้เข้ากัน ตีให้น้ำตาล
ละลาย และไข่ฟูเนียนไอศครีมทอด
4.เทนม และ ครีม ผสมรวมกับส่วนผสมไข่ คนให้เข้ากัน จึงใส่ส่วนผสมถั่วแดง คนให้เข้ากันอีกครั้งไอติมทอด
5.นำส่วนผสมเก็บใส่กล่องปิดฝา แช่ในช่องแช่แข็ง แล้วคอยนำส่วนผสมออกมาคนทุก 30 นาที - 1
ชั่วโมง ให้คอยคนให้ทั่ว และแช่แข็ง จนกระทั่งส่วนผสมแข็งตัวเนียนไอติมทอด

Thursday, September 19, 2013

ไอศกรีมมะม่วง & ไอศกรีมสตอเบอรี่

Picture1997_thumb_up
ไอศกรีมสตอเบอรี่ 
ส่วนผสม
-  นมสดหรือครีมข้น 2 ถ้วยตวง น้ำ 1 ถ้วยตวง
- สตรอเบอรี่ในน้ำเชื่อม ครึ่งถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะไอศครีมทอด
วิธีทำ
1. ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำและน้ำตาลทรายคนให้เข้ากัน นำมาใส่หม้อตุ๋น กวนจนแป้งสุก ยกลงจากเตา
2. ผสมสตรอเบอรี่กับนมสด จากนั้นใช้ช้อนกดสตรอเบอรี่ให้แตกออกจากกันไอศครีมทอด
3. นำส่วนผสมในข้อ 1 และ 2 มาผสมกัน คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาใส่ในหม้อปั่น ใช้เวลา 30-40 นาที่ (เกลือเม็ด 1 ส่วน น้ำแข็ง 3 ส่วน) หรือจนกว่าจะแข็ง
ข้อแนะนำ
1. สามารถใช้สตรอเบอรี่สดแล้วนำมาเชื่อมเอง หรือแยมสตรอเบอรี่แทนก็ได้ไอศครีมทอด
2. ถ้าสีไม่เข้มให้เติมสีผสมอาหารสีแดงสตรอเบอรี่เล็กน้อย (จากสูตรตักได้ประมาณ 15 ก้อน ขายก้อนละ 10 – 15 บาท)ไอศครีมทอด
Picture12035_thumb_up
ไอศกรีมมะม่วง  
ส่วนผสม
-  มะม่วงสุก 2 ถ้วยตวง นมสด 4 ถ้วยตวง
-  น้ำตาลทราย 1  ถ้วยตวง น้ำ 2 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1. นำนมสดมาผสมกับน้ำตาลทรายและน้ำ คนให้น้ำตาลละลายไอติมทอด
2. ยกขึ้นตั้งไฟปานกลางคนไปเรื่อย ๆ พอเดือดให้ใส่มะม่วงคนให้เข้ากันยกลงพักให้เย็น
3. นำไปปั่นให้แข็ง (ตักได้ประมาณ 25 ก้อน)ไอติมทอด
ข้อแนะนำ 
ควรใช้มะม่วงอกร่อง เพราะจะได้กลิ่นหอมของมะม่วงสุกชัดเจน

เลือกซื้อเครื่องทำไอศกรีม

a0eb2-imagescar2dpfe
ไอ ศกรีมโฮมเมด เป็นไอศกรีมที่ทำทานเองที่บ้าน มีความอร่อยตามแต่ผู้ทำ หรือผู้รับประทานต้องการ โดยไม่คำนึงถึงราคาเท่าใดนัก แม้วัตถุดิบจะดี หรือกระบวนการจะเลอเลิศสักแค่ไหน ถ้าปราศจากเครื่องปั่นไอศกรีมสักตัว ไอศกรีมที่ตั้งใจทำก็ไม่สามารถเป็นไอศกรีมได้ เครื่องปั่นไอศกรีมตัวเหมาะๆ สักตัว น่าจะมีใช้ในแต่ละบ้านที่ชื่นชอบไอศกรีมนะครับไอศครีมทอด
สิบ ปีที่ผ่านมาความนิยมไอศกรีมโฮมเมดหรือไอศกรีมทำเอง ทานเอง ได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ผู้นำเข้าเครื่องปั่นไอศกรีมก็ได้นำสินค้าเข้ามาจำหน่ายภายในประเทศมี มากขึ้น หลากหลายจนผู้ซื้อไม่ทราบว่าควรซื้อแบบใดดีไอศครีมทอด
       หลักการของการปั่นไอศกรีมจะมีลักษณะเหมือนกัน คือการหล่อด้วยความเย็นโดยรอบในถังทรงกระบอก แล้วใช้ใบมีด(Blade)ปาดส่วนที่กำลังจะกลายเป็นน้ำแข็งออกไป และกวนให้ส่วนนั้นๆ กระจายอยู่ในเนื้อไอศกรีม ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้เนื้อไอศกรีมมีความละเอียด ส่วนใหญ่มีขนาดบรรจุ หรือความสามารถในการทำแต่ละครั้งอยู่ที่ 3/4-4 ลิตรไอศครีมทอด
โดย จะมีส่วนประกอบที่สำคัญคือ เครื่องปั่นไอศกรีมระดับโฮมเมด มีหลากหลายยี่ห้อ แต่สามารถแบ่งได้เป็น 3 ชนิดใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ แบบมีคอมเพรซเซอร์ในตัว แบบถังน้ำแข็ง และแบบถังถอดแช่แข็ง ซึ่งแต่ละแบบมีความสามารถและการใช้งานที่แตกต่างกันไปไอศครีมทอด
 
เครื่องปั่นไอศกรีมแบบมีคอมเพรซเซอร์ในตัว หรือเครื่องปั่นไอศกรีมอัตโนมัติ (Fully Automatic Ice Cream Machine, FAIM)
เครื่อง FAIM นี้ มีคอมเพรซเซอร์ที่ให้ความเย็นในขณะที่มอเตอร์หมุนใบพายหรือใบมีดทีทำจาก พลาสติกเนื้อดี หมุนๆๆ  เปลี่ยนไอศกรีมที่เคยเป็นของเหลว ให้กลายเป็นไอศกรีมอร่อยๆ ได้ในเวลาไม่นาน แถมสะดวกสบายง่ายดายอย่างที่สุดไอติมทอด
ด้วย คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมนี้ เครื่อง FAIM นี้ถูกนำมาใช้ในการทำไอศกรีมสดๆ ที่โรงแรมชั้นนำทั่วไป เนื่องจากเชฟต่างๆ ไม่จำเป็นต้องทำในปริมาณมากๆในแต่ละครั้ง แต่ต้องการความสะดวกสบายในการทำงาน และที่สำคัญที่สุด เครื่องชนิดนี้สามารถทำไอศกรีมที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ เนื้อเนียนละเอียดไอติมทอด
ความง่ายของการทำงาน  เริ่มจากการกดปุ่มเปิดคอมเพรซเซอร์ จนอุณหภูมิได้ที่ แล้วจึงเปิดใบมีดทำงาน และเทส่วนผสมไอศกรีมลงไป เป็นอันเสร็จ ต่อจากนี้ก็รอประมาณ 20-30 นาที ก็เป็นอันเสร็จ
ไอศกรีมที่ทำได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อทำการปั่นไอศกรีมเสร็จแล้ว และทำความสะอาดโถปั่นเรียบร้อย เท่านี้เครื่องก็พร้อมที่จะใช้งานอีกครั้ง
โถปั่นสองชิ้น เครื่อง FAIM ทั่วๆ ไปจะมีโถปั่น 2 ชั้น คือชั้นด้านในที่ถอดออกได้ และชั้นด้านนอกที่ติดกับเครื่อง ซึ่งสามารถใช้ในการปั่นไอศกรีมได้ทั้งสองส่วน แต่ที่แน่ๆ โถด้านในจะมีขนาดบรรจุที่น้อยกว่าโถด้านนอก แต่ก็ไม่มาก และในการใช้โถด้านใน จำเป็นต้องใช้สารนำความเย็น ประเภทแอลกอฮอล์หรือน้ำเกลือเพื่อนำความเย็นจากโถด้านนอกไปสู่โถด้านใน
บอก เล่าถึงขอดีเลอเลิศของเครื่องดังกล่าวมาเยอะแล้ว จริงๆ เครื่องนี้ถือได้ว่าเป็นของใช้จำเป็นสำหรับมืออาชีพ และเป็นของเล่นของคนมีตัง.. อ้าว ก็ราคาสูงซะขนาดนี้ และที่สำคัญ จะต้องมีที่ทางให้มันด้วย เป็นที่วางไว้นิ่งๆ ไม่ค่อยย้ายไปไหนมาไหน เนื่องจากน้ำหนักค่อนข้างมากและขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว ถ้าใครกำลังสนใจอยากได้ไว้ใช้(ประดับบารมี) สนนราคาเริ่มต้นที่ 25,000 บาท แต่ถ้าเป็นเครื่องซื้อต่างประเทศจะถูกกว่านี้นะ
เครื่องปั่นไอศกรีมแบบใช้น้ำแข็งและเกลือ   
เครื่องปั่นไอศกรีมสไตล์โบราณนิดนึง ถ้าจะโบราณกว่านี้ก็ต้องแบบใช้มือหมุนเอา จ้ำเข้า จ้ำเข้า
เครื่อง ชนิดนี้เป็นเครื่องที่มีการใช้ตั้งแต่แรกๆ ไม่มีใครทราบว่าเริ่มใช้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งข้อดีก็คือสามารถควบคุมความเย็นได้ ถ้าต้องการเย็นมาก ก็ใส่เกลือมากหน่อย แต่ถ้าไม่ต้องการให้แข็งเร็ว ก็ใส่เกลือน้อยหน่อย
การ ใช้งานยุ่งยากไปนิดนะ ก็คือใส่ส่วนผสมในถังปั่นด้านใน ปิดฝา ประกอบเครื่อง เปิดเครื่อง ใส่น้ำแข็งและเกลือสลับกันไป จนเต็ม อัตราส่วนน้ำแข็งกับเกลือ(ใช้ถ้วยหรือชามตวง)คือ 5:1 หรือ 6:1 ปั่นจนเครื่องหยุดนิ่ง หมายความว่าใช้ได้ แล้ว เปิดเครื่อง เอาถังไอศกรีมออกมา เช็ดให้สะอาดก่อนเปิดฝาเอาไอติมออกมาแช่ตู้แช่แข็งต่อไป
และหลังจากที่อุปกรณ์ต่างๆทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว เท่านี้เครื่องก็พร้อมทำงานต่อได้เลย
แน่ นอนข้อดีคือการควบคุมความเย็นได้(สามารถทำให้ไอศกรีมแข็งได้แน่ๆ) อีกทั้งคุณภาพของเนื้อที่พอค่อนข้างดี ราคาที่ไม่แพง เสียงค่อนข้างดัง(เพราะมีเสียงมอเตอร์และเสียงการเสียดสีของน้ำแข็งเป็นบาง ครั้ง) อาจจะเลอะเทอะ เพราะมีน้ำ น้ำแข็ง แล้วก็เกลือ และก็ยังมีปัญหาการกำจัดน้ำเกลือออกไป ปัจจุบันคนไทยบางส่วนอาศัยในคอนโด ตึกแถว การกำจัดน้ำเกลือจึงเป็นสิ่งที่ลำบากสักนิดนึง และต้องระวังอุปกรณ์สำคัญๆ ต่างๆ ไม่ให้สัมผัสกับน้ำเกลือ เพราะจะทำให้เสียหายได้ง่ายๆ
สำหรับเครื่องชนิดนี้หาซื้อได้ค่อน ข้างง่าย มีหลายรายนำเข้ามา แต่ควรตรวจสอบดีๆ เกี่ยวกับใบพัดที่ควรเป็นใบพัดที่ทำจากพลาสติก และค่อนข้างกว้าง ไม่ควรเลือกใบพัดที่เป็นโลหะซึ่งจะได้เนื้อไอศกรีมที่ผสมกับโลหะมาแทน ทานไม่อร่อย แม้คนขายจะเชียร์ว่าเสริมธาตุเหล็กก็ไม่ควรนะครับ สนนราคาเริ่มต้นที่ 3,500 บาท
เครื่องปั่นไอศกรีมชนิดถังแช่แข็ง (Ice Cream Machine with a Detachable Bowl)
เครื่อง ปั่นที่จำลองเครื่องชนิดแรก ใช้งานได้สะดวกกว่า หรือจะเก็บเข้าที่ทางก็ง่าย ใช้สำหรับทำไอศกรีมปริมาณน้อย มีเสียงค่อนข้างเบา ง่ายๆ นำถังปั่นไปแช่ในตู้แช่แข็งจนกระทั่งของเหลวภายในถังเป็นน้ำแข็ง สังเกตจากการเขย่า จะไม่มีเสียงน้ำ เท่านี้ก็สามารถใช้งานได้แล้ว
อย่าง ที่ทราบว่าในตัวถังบรรจุด้วยของเหลว ที่มีจุดเยือกแข็งต่ำกว่าน้ำ และด้วยความเย็นนี้จะถูกถ่ายเทไปสู่ไอศกรีมเหลวในขณะปั่น ทำให้ไอศกรีมเหลวๆ ค่อยๆ กลายเป็นไอศกรีมอร่อยๆ ได้ในเวลาไม่นาน
เนื่องจากเครื่องนี้มีกลไกที่ไม่ซับซ้อน การประกอบก็ง่าย อีกทั้งไม่ต้องกังวลเรื่องการกำจัดน้ำเกลือ แต่อุณหภูมิของการแช่ต้องต่ำพอ
กล่าวคือ ถ้าไม่สามารถทำให้ของเหลวในถังปั่นแข็งตัวได้ ก็ไม่สามารถทำไอศกรีมได้ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาประมาณ 10-24 ชั่วโมง
เนื่อง จากเครื่องชนิดนี้เป็นที่นิยมค่อนข้างมาก ทำให้มีการออกแบบ และผลิตออกมาหลากหลายยี่ห้อ ส่วนสนนราคาขึ้นอยู่กับความสวยงาม วัสดุที่ใช้ โดยเริ่มต้นที่ 3,000 บาท
 
แล้วเราจะเลือกอย่างไร?
ควรเลือกที่คุณพอใจ ทั้งนี้ขึ้นกับกำลังทรัพย์ องค์ประกอบ สไตล์การใช้ชีวิต และลักษณะที่พัก และปัจจัยอื่นๆ 
เคดิท: i-smile icecream

การเปิดธุรกิจไอศกรีม

icecream4
ด้วย สภาพอากาศที่ร้อนทั้งปีของบ้านเรา ส่งผลให้การทำกิจการไอศกรีมได้รับการตอบรับที่ดี เราจะเห็นว่าตั้งแต่วัยเด็ก ไอศกรีมยังไม่มีความหลากหลายมากมาย และอร่อยได้มากเท่านี้ แต่ปัจจุบันกิจการไอศครีมมีความก้าวหน้าอย่างมาก และมีความแปลกใหม่มาให้เราลิ้มลองอยู่เสมอ ด้วยปัจจัยที่เอื้ออำนวยนี้นี่เอง ทำให้ธุรกิจนี้มีการเติบโต จากการขยายช่องทางมาจากโรงงานไอศกรีมของบริษัทต่างชาติยักษ์ใหญ่ การขายแฟรนไชส์ของไอศกรีมชั้นนำที่มาจากต่างประเทศ ร่วมทั้งไอศกรีมแบบโฮมเมด ที่มีงานถ่ายทอดวัฒนธรรมกันไปมา และไอศกรีมที่สร้างสรรค์ขึ้นเองของคนไทยเอง ประกอบกับนวัตกรรมเครื่องผลิตไอศกรีม ที่ทำให้การทำไอศกรีมทำได้ง่ายและอร่อย สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดผลดี แก่ผู้ที่รักในธุรกิจไอศกรีม ได้มีทางเลือกหลายช่องทางไอศครีมทอด
       และแน่นอนผู้ที่ทำธุรกิจนี้ก็ต้องอยู่ในท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดด้วย ดั้งนั้นคำแนะนำจากผู้รู้ที่มีประสบการณ์อย่างยาวนานในเรื่องนี้ จะช่วยให้คำแนะนำที่ดีแก่คุณได้ไอศครีมทอด
        จากการที่ทีมงานแฟรนไชส์ โฟกัส ได้สำรวจและพูดคุยกับผู้ที่คว่ำหวอดในวงการนี้มาอย่างยาวนาน บางคนเรียกได้ว่า ทำมานานเกือบทั้งชีวิตทีเดียว และบางรายก็เป็นแบรนด์ที่ครองตลาดสูงสุด จนไปถึงรายย่อย ที่จับต้องได้ง่าย เราจึงได้ข้อมูล ที่สรุปถึงเรื่องของไอศครีมได้ดังนี้ไอศครีมทอด

ตลาดของไอศกรีมยังโต 3-4% 
        บางคนก็ตีมูลค่าตลาดไอศกรีมต่อปี เป็นหมื่นล้าน บางคนก็ประเมินว่า น่าจะมีมูลค่าปีละไม่ต่ำกว่า สามพันล้าน อย่างไรก็ตามตัวเลขที่ค่อนข้างจะตรงกันก็คือ การเติบโตในธุรกิจไอศกรีมนั้นยังคงมีอยู่ ในราวๆซัก 3-4% ทั้งนี้ก็เติบโตไปตามการเพิ่มขึ้นของประชากรเป็นหลัก สำหรับไอศกรีมก็จะมีหลายระดับคือไอศครีมทอด

-ไอศกรีม พรีเมี่ยม อย่าง เช่น ฮาเก้นดาส สเว่นเซนส์ บัดส์ไอศกรีม ครีม แอนด์ฟัด บาสกิ้นรอบบิ้นส์ เป็นต้น ข้อมูลของธนาคารไทยพาณิชย์ได้วิเคราะห์เอาไว้ ในปี 2550 ว่า ตลาดระดับไอศกรีมพรีเมี่ยมนี้ มีมูลค่าประมาณ 3 พันล้านบาท และมีอัตราการเติบโตประมาณ 10% ที่ดูแล้วเหมือนมีโอกาที่ดีค่อนข้างมาก แต่ตลาดนี้ก็ยังเป็นตลาดที่อ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวนจะยังต้องพึ่งพา ในกลุ่มของนักท่องเที่ยวด้วยไอติมทอด

-ไอ ศครีมระดับกลาง เช่น ไอศกรีม เจลาโต้ หรือไอศกรีมตักที่อยู่ตามห้างสรรพสินค้าเป็นต้น เป็นตลาดกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด มีมูลค่าประมาณ 7 พันล้านบาท แต่มีอัตราขยายตัวที่ 3-5% ถึงแม้ว่าการเติบโตไม่สูงมากแต่ก็เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด ที่น่าสน

-ไอศกรีม ระดับล่าง ที่เจาะลูกค้าทั่วไป อย่างไอศกรีมรถเข็น และไอศครีมกะทิ หรือไอศกรีมที่เป็นอุตสาหกรรมครัวเรือน เป็นต้น กลุ่มนี้ถ้านับจำนวนผู้ผลิตมีมากที่สุดที่คิดเป็น 78% ของผู้ผลิตไอศกรีมทั้งหมด สำหรับมูลค่าตลาดประเมินกันว่าอยู่ประมาณ 1 พันล้านล้านบาทต่อปี ตลาดนี้มีการเติบไม่สูงนัก แต่ตลาดนี้กำลังถูกรุกคืบจากผู้ผลิตรายใหญ่ ที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งกว่า

อย่างไรก็ตามอุปสรรค์ที่สำคัญยิ่งเหมือนทุกธุรกิจ ก็คือเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ และปัญหาการเมืองเป็นผลกระทบของธุรกิจนี้

ตลาดยังลงทุนได้หรือไม่ 
        คุณนิมณิชา กรรณเลขา กรรมผู้จัดการ เอ็นทูไอซ์ ผู้เชี่ยวชาญในด้านการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำไอศกรีมและเจลาโต้ รวมถึงเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องทำไอศกรีมและอุปกรณ์ในการเปิดร้านไอศกรีม ให้คำแนะนำเกี่ยวกับโอกาสในการทำร้านไอศกรีมว่า "สำหรับผู้ที่กำลังว่าจะเปิดธุรกิจไอศกรีม ถ้าลงทุนต่ำสุดอาจใช้เครื่องปั่นขนาดเล็ก บวกกับตู้แช่ สามารถทำเป็นแนวแพ็คส่งร้านเป็นถ้วย 4 ออนซ์ เนื่องจากการเริ่มต้นลูกค้าจะไม่มั่นใจในการเปิดร้าน ทำที่บ้านแล้วไปส่งร้านอาหาร ต้นทุนจะอยู่ไม่เกิน 3-4 หมื่น จะคืนทุนค่อนข้างเร็ว มีลูกค้าที่เคยสอน เปิดร้านไอติม ก็จะขายไอศครีมแปลก ฝรั่งบ๊วย รสแปลกๆ หรือบางรายมาซื้อเครื่องไป แล้วส่งพนักงานมาอบรม ซึ่งบริษัทก็จะมีบริการเพิ่มในเรื่อเรื่องของการทำเมนู และรับจ้างเป็นที่ปรึกษาในการเปิดร้านด้วยไอติมทอด

        ส่วนการมองเรื่องธุรกิจไอศครีม ตอนนี้ธุรกิจนี้น่าสนใจมาก เพราะธุรกิจกาแฟเริ่มเต็ม แต่ไอศครีมคนเพิ่งเริ่มมารู้จัก แล้วก็ค่อยขยับขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งปีที่แล้วฮอตมาก เนื่องจากว่าเริ่มรู้ว่าต้นทุนถูก และตลาดที่คนส่วนใหญ่จะรู้จักแค่วอลล์ พอคนเริ่มรู้ว่า ไอศครีมโฮมเมดทำง่าย แล้วก็ได้ใส่ไอเดีย ผลไม้ไทยมีอีกหลายชนิด มันก็ทำให้กลายเป็นตลาดอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ไอศกรีมโฮมเมดคิดไอ เดียสร้างสรรค์ขึ้นมา ครีเอทเป็นแบรนด์รสขาติของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ถือว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก
คนที่คิดจะทำร้านไอศกรีม คุณนิมณิชา ให้ข้อแนะนำว่า คืออันดับแรก ให้มองตลาดที่เราจะขายว่าเป็นกลุ่มไหน ไม่ใช่มองว่าเราชอบอะไรแต่ให้มองว่าตลาดต้องการอะไร แต่ละโลเคขั่นที่เราไปขายก็แตกต่างกัน ไปขายโรงเรียนก็ทำแบบนี้ ถ้าขายร้านสปา ก็ต้องทำอีกแนวหนึ่ง ขายในสำนักงานออฟฟิศ อาจจะเป็นแนวโยเกิรต์ โลว์เฟต คือต้องมองลูกค้าที่จะไปขายเขาขอบอะไร ไม่ใช่ว่าเราชอบอะไร
      ข้อสอง คุณภาพและความสะอาดไอศกรีมเราก็มี มากที่สุด เพราะเป็นปัจจัยสำคัญ แล้วเรื่องอื่นๆก็จะตามมา คือต้องมีความมุ่งมั่นและใจรัก ก็จะประสบความสำเร็จ
      ควรจะเป็นควบคู่ไปกับธุรกิจอื่นๆ เช่น กาแฟ หรือ เบเกอรี่ คือแทนที่จะต้องจ่ายค่าร้านกาแฟ เบเกอรี่ ก็มีไอศกรีมเปิดไปด้วย ด้านการแข่งขัน ปีนี้การแข่งขันสูง แต่ก็ต้องเน้นจุดเด่นของเราว่าเราขายอะไร ถ้าไอศกรีมอย่างเดียวก็ต้องเน้นเรื่องการจัดร้าน ไม่ใช่ให้แค่มาทานไอศกรีม หรือครีเอทให้มีแนวแปลกขึ้น เช่นอย่างที่ร้านมีเมนูสปาเก็ตตี้ จะเป็นไอศครีมเส้นๆ หน้าตาแปลก

แนวโน้ม ข้างหน้า 
      ไอศกรีมเป็นของหวานที่ทุกชาติชื่นชอบ แต่ก็มีอุปสรรคในเรื่องของไขมันสูง แม้ว่าวันนี้พฤติกรรมของคนไทย ยังไม่แคร์ในเรื่องของไขมันจากไอศกรีมกันมากมากนัก ส่วนใหญ่ยังรักความอร่อยกันมากกว่า แต่แนวโน้มในวันข้างหน้า หากประชากรในระดับที่มีความรู้มีมากขึ้นจะให้ความสำคัญเรื่องนี้มากขึ้น ไอศครีมเพื่อสุขภาพที่ยังไม่นิยมมากนักในเวลานี้ อาจจะมีตัวเลขที่ดีขึ้น หรือไอศครีมที่มีจุดโดดเด่นเรื่องคุณค่าสมุนไพร หรือสารอาหารที่ดีเลิศที่ดีต่อสุขภาพ อาจจะได้รับการยอมรับมากขึ้นในวันข้างหน้าก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือนวัตกรรมในการสร้างสรรค์ไอศครีมยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้ไอศครีมหน้า ใหม่มาแรงได้
เคดิต: www.positioningmag.com

Monday, September 16, 2013

วิธีทำไอศครีมมะนาว

250px-Icepop-green

วิธีทำไอศครีมมะนาว

เครื่องปรุง .-
นมข้นจืด ครึ่งถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
ผิวมะนาว 1 ช้อนชา ไอศครีมทอด
น้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง ไอศครีมทอด
ไข่แดง 5 ฟอง
 
วิธีทำ
นำน้ำต้มสุก นม น้ำตาลทราย ผิวมะนาว  และไข่แดงลงต้มในหม้อตุ๋นจนข้นดี
หมั่นคนอย่าให้เป็นลูกนะคะ ตุ๋นจนข้นดีและเนื้อละเอียดดีแล้วยกลง ไอศครีมทอด
จากนั้นช้อนผิวมะนาวออก รอให้เย็นสนิทค่ะ  แล้วเทใส่ภาชนะยกเข้าตู้เย็นช่องฟรีซ
เท่านี้ก็จะได้ไอสครีมมะนาวอร่อยเย็นชื่นใจไอติมทอด

ติมมะม่วงน้ำดอกไม้

แบบนี้ไมใช้คัสตาร์ด ไม่มีไข่เป็นส่วนผสม
แต่ยังใช้นมและครีมอยู่
มะม่วงน้ำดอกไม้สุก                              2      ลูก     
น้ำตาลทราย                                       150       กรัม
นมสดจืด                                            200      ซีซี
วิปปิ้งครีม                                           200      ซีซี
Picture11761_thumb_up
 วีธีทำ
ไม่มีรูปละเอียดนะคะ
-นมผสมน้ำตาลขึ้นตั้งไฟให้พอน้ำตาลละลายไอศครีมทอด
-เนื้อมะม่วงใส่เครื่องปั่นให้ละเอียดไอศครีมทอด
-เอาเนื้อมะม่วงใส่ลงในนมที่ละลายน้ำตาลแล้วไอศครีมทอด
-ใส่วิปปิ้งครีม ลงไปคนให้ผสมกันจนเนียนไอศครีมทอด
-บ่มไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาสัก 4 ชม.(มากกว่าก็ได้)
..
จากนั้นก็เอาใส่เครื่องทำไอศกรีมตามคู่มือของเครื่องใครเครื่องมัน
ถ้าไม่มีเครื่องปั่นก็ทำตามขั้นตอนfreezingตามกระทู้ รสวานิลลา
คือเอาไปเข้าช่องฟรีซแล้วเอาออกมาข่วนๆด้วยส้อม
ทุกชั่วโมงครึ่ง ถึงสองชั่วโมงไอติมทอด
ประมาณ 4ครั้งไอติมทอด
จากนั้นถ่ายใส่กล่องที่มีฝาปิด อีก2-3ชั่วไมง
ได้ออกมาแล้ว

ไอศครีมเชอร์เบท รสมะนาว

Picture11972_thumb_up

สูตรนี้ เพื่อนคนญี่ปุ่นสอนให้  ทำได้ง่าย ๆ ที่บ้านก็ทำทานบ่อย ๆ เหมือนกันในหน้าร้อนค่ะ

ไอศครีมเชอร์เบท  รสมะนาวไอศครีมทอด

ส่วนผสม (สำหรับ 6-7 คน)

น้ำสะอาด 380 ซีซี (ถ้าจะให้อร่อยยิ่งขึ้น ให้ใช้น้ำ 250 ซีซี + แชมเปญ หรือ ไวน์ขาว 130 ซีซี ผสมกันค่ะ)
น้ำตาลทราย 110 กรัม (ถ้าชอบออกเปรี้ยวหน่อย ก็ลดน้ำตาลทรายลงได้)ไอศครีมทอด
น้ำมะนาว 150 ซีซี (มะนาวเหลืองประมาณ 3 ลูก)ไอศครีมทอด
ผิวมะนาวเหลืองขูดฝอย 1 ลูกไอศครีมทอด

วิธีทำ
1. มะนาวเหลือง นำมาล้างผิวให้สะอาด แล้วใช้ที่ขูดฝนเอาแต่ผิวของมะนาว ใส่ถ้วยไว้ไอติมทอด

2. นำหม้อใส่น้ำ+แชมเปญหรือไวน์ขาว+น้ำตาลทราย ตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อน คนให้น้ำตาลทรายละลาย ไม่ต้องรอให้เดือดนะค่ะ เสร็จแล้วก็ใส่ผิวมะนาวที่ขูดไว้ลงไป ตั้งไฟอ่อน ๆ ต่ออีกประมาณ 1 นาที ยกลงจากเตาทันทีไอติมทอด

3. ใส่น้ำมะนาวที่กรองกากไว้แล้วลงไป (ต้องปิดไฟก่อนถึงจะใส่น้ำมะนาวค่ะ)

4. นำกะละมังใส่น้ำ + น้ำแข็ง แล้วเอาหม้อส่วนผสมลงแช่ คอยคนบ่อย ๆ ให้หายร้อน พอส่วนผสมเย็นลงแล้ว นำใส่ถาดแบน ๆ (ถ้าใช้ถาดอลูมิเนียม ก็จะยิ่งแข็งตัวเร็วขึ้น) นำถาดเข้าแช่ในช่องแข็ง ควรนำเอาถาดออกมากวนส่วนผสมบ่อย ๆ เพื่อให้อากาศเข้าทั่วถึง เนื้อไอศครีมเชอร์เบทจะอร่อยกว่าที่จะปล่อยให้แข็งเองนะค่ะ เสร็จแล้วก็ตักเสริฟ์ได้เลย

ลองทำดูนะค่ะ ...ขอรอเป็นเพื่อนด้วยคนนะค่ะ เผื่อเพื่อน ๆ คนอื่นมีสูตรมาแบ่งกันบ้าง 

Sunday, September 15, 2013

ไอศกรีมทุเรียน &ไอศกรีมเผือก

ไอศกรีมทุเรียน

ส่วนผสม 
-  ทุเรียน ½ หรือ 1 ถ้วยตวง นมสด 2 ถ้วยตวง
-  น้ำ 2 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ 
1. เลือกทุเรียนที่ไม่สุกมาก แกะเอาแต่เนื้อใส่ลงไปในหม้อ เติมใส่น้ำลงไปยกขึ้นตั้งไฟ ต้มพอสุก (เนื้อทุเรียนจะยุ่ยอ่อนนุ่ม) ใช้ช้อนบี้ให้แตกออก
2. นำกระชอนที่มีรูละเอียดวางบนหม้อ ใส่ทุเรียนที่ต้มลงไป บี้เนื้อทุเรียนให้ละเอียดผ่านกระชอนได้ไอติมทอด
3. นำทุเรียนเทใส่หม้อตั้งไฟ เทน้ำตาลลงไปพอน้ำตาลละลายหมดให้ใส่นมสดคนให้ทั่วยกลง ไอติมทอด


ไอศกรีมเผือก

ส่วนผสม 
-  เผือกต้มบด 2 ถ้วยตวง หัวกะทิ 4 ถ้วยตวง
-  น้ำตาลทราย 4 ถ้วยตวง เกลือ ½ ช้อนชา
วิธีทำ 
1. นำเผือกบดใส่ในหม้อเทกะทิลงไปคนให้เข้ากันไอศครีมทอด
2. ใส่น้ำตาลทราย เกลือผสมกับเผือกและกะทิคนให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟปานกลางไอศครีมทอด
คนไปเรื่อย ๆ จนละลาย ยกลงพักให้เย็นไอศครีมทอด
3. เทใส่ถังปั่นให้แข็ง (ตักได้ประมาณ 10 ก้อน)
ข้อแนะนำ 
ถ้าสีม่วงอ่อนเกินไป ให้หยดสีผสมอาหารสีม่วงลงไปอีกเล็กน้อยเพื่อแต่งสีให้สวยงาม ไอศครีมทอด

ไอศกรีมชาเขียว&ไอศกรีมกล้วยหอม

ไอศกรีมชาเขียว
ส่วนผสม 
-  นมสด 4 ¼ ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 ½ ถ้วยตวง ไข่แดง ¾ ถ้วยตวง
-  วิปปิ้งครีม 1 ¼ ถ้วยตวง เจลลาตินแผ่น 3 กรัม ผงชาเขียว ¾ ถ้วยตวง
-  กลูโคสชนิดก้อน (แบะแซ) ½ ถ้วยตวง ไอติมทอด
วิธีทำ 
1. เทนมสด น้ำตาลทราย และวิปปิ้งครีมลงในหม้อนำไปตั้งไฟต้มจนเดือด จากนั้นใส่ไข่แดงและกลูโคสก้อนกวนให้เข้ากันจนข้นเล็กน้อย ยกลง
2. เติมเจลลาตินและผงชาเขียว ทิ้งไว้ให้แห้งไอติมทอด
3. นำมาปั่นให้เข้ากันแล้วใส่ถังแช่ หรือนำไปใส่ช่องแช่แข็งในตู้เย็นจนแข็ง


ไอศกรีมกล้วยหอม

ส่วนผสม 
-  นมข้นหวาน ½ ถ้วยตวง น้ำตาลทราย ¾ ถ้วยตวง
-  น้ำต้มสุก 2 ½ ถ้วยตวง วานิลา 1 ช้อนชา
-  กล้วยหอมสุกงอมหั่น 2 ถ้วยตวงไอศครีมทอด
วิธีทำ 
1. ละลายน้ำตาลทรายขาวกับน้ำ 1 ถ้วยตวง พอน้ำตาลละลายจึงใส่นมข้นหวานคนให้เข้ากัน ใส่วานิลาและน้ำส่วนที่เหลือคนให้เข้ากันไอศครีมทอด
2. นำกล้วยหอมมาปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปไอศครีมทอด
3. เทใส่หม้อปั่น ใช้เวลาปั่น 30 – 40 นาที (ตักได้ประมาณ 10 ก้อน)ไอศครีมทอด

ออเรนจ์ เชอร์เบท

ออเรนจ์ เชอร์เบท

มาคลายร้อนด้วยไอศกรีมออเรนจ์ เชอร์เบท คนที่ไม่มีเครื่องปั่นไอศกรีมก็สามารถทำได้ เมื่อได้รับประทานแล้วจะได้เย็นกาย เย็นใจ คลายร้อนกันทั้งครอบครัว ว่าแต่จะเลือกรสไหนดี ส้ม องุ่น มะนาว หรือสตรอเบอรี่
ส่วนผสม 
น้ำส้มคั้น 2 ถ้วย
น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วย
เยลลี่แผ่น 1 แผ่น
วิธีทำ 
ผสม ส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำไปแช่ตู้เย็น ในช่องแข็ง ให้แข็งเป็นเกล็ดๆ นำออกมาปั่นด้วยเครื่องปั่นน้ำผลไม้ หรือเครื่องตีไข่ จนเนื้อละเอียดขึ้น แล้วนำกลับไปแช่ช่องแข็ง ให้เป็นเกล็ดน้ำแข็งอีก นำมาปั่นซ้ำ ทำเช่นนี้ 2-3 ครั้ง จนเนื้อไอศครีมละเอียดตามที่ต้องการ ตักใส่ภาชนะมีฝาปิด นำเข้าแช่ในตู้เย็นให้แข็ง ก่อนนำออกเสิร์ฟ ไอติมทอด
หมายเหตุ 
อัตราส่วน น้ำ : น้ำตาล สำหรับน้ำเชื่อม คือ 3/4 : 1ไอติมทอด
ถ้า มีเครื่องปั่นไอศกรีม ให้นำส่วนผสมทั้งหมด ตีกับเครื่องทำไอศกรีม จนเนื้อละเอียด เพียงครั้งเดียว ไม่ต้องนำกลับไปแช่ แล้วนำกลับมาตีใหม่ ไอศครีมทอด




ไอศกรีมส้ม

ส่วนประกอบ 
น้ำส้ม 500 มิลลิลิตร
นมพร่องไขมัน 1 ลิตร
น้ำตาล 1 ถ้วย
หางนมผง 4 ช้อนโต๊ะ
ไข่ขาว 2 ฟอง
ส่วนประกอบสำหรับทำซอสส้ม 
น้ำส้ม 280 มิลลิลิตร
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
เนื้อส้ม 1 ผล
วิธีทำ 
เทน้ำส้ม 500 มิลลิลิตร ลงในหม้อเคลือบ ที่ไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำส้ม เคี่ยวด้วยไฟแรง จนกระทั่งลดลงเหลือ 3 ใน 4 พักไว้ให้เย็นไอศครีมทอด
เท น้ำตาล ( โดยเหลือ เก็บไว้ 2 ช้อนโต๊ะ ) นม และนมผงลงในกะทะก้นหนา เคี่ยวด้วยไฟอ่อน ค้นอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งน้ำตาลละลาย นำขึ้นจากเตาพักไว้ให้เย็นไอศครีมทอด
ใน ขณะนี้ ก็เตรียมทำซอสส้ม โดยผสมน้ำส้ม น้ำผึ้ง และเนื้อส้ม เข้าด้วยกันในกะทะแบน เคี่ยวด้วยไฟอ่อน เป็นเวลา 1-2 นาที ละลาย แป้งข้าวโพดในน้ำเย็น แล้วเทลงในส่วนผสมทำซอสเพื่อให้ซอสข้น จากนั้นนำขึ้นจากเตาแล้วพักไว้ให้เย็นไอศครีมทอด
เท ส่วนผสมนมที่พักไว้ลงในเครื่องปั่นไอศกรีม แล้วปั่น ในขณะนี้ให้ตีไข่ขาวในชามอีกใบ จนขึ้นแล้วเติมน้ำตาลที่เก็บไว้ลงไปแล้วตีต่ออีกประมาณ 1 นาที แล้วพักไว้ เติมน้ำส้มที่เคี่ยวไว้แล้ว ลงไปผสมกับนมในเครื่องปั่นไอศกรีม ปั่นไอศกรีมต่อจนกระทั่งข้น เติมไข่ขาวที่ตีให้ขึ้นไว้แล้วลงในเครื่องปั่นไอศกรีม แล้วปั่นต่อจนกระทั่งเข้ากัน เสร็จแล้วตักไอศกรีมใส่ภาชนะ แล้วนำเข้าช่องแช่แข็งทิ้งไว้ข้ามคืน เมื่อจะเสริฟ ให้ตักไอศกรีมใส่จานแช่เย็น แล้วราดด้วยซอสส้มที่ทำเตรียมไว้รอบจาน

Saturday, September 14, 2013

วิปปิ้งครีม?

08_30
เทคนิค
วิปปิ้งครีมยี่ห้อ อังเคอร์กับโฟรโมสต์ ต่างกันอย่างไร? ใช้แทนกันได้ไหมคะ อะไรที่ใช้แทนกันได้ และไม่ได้คะ?? ไฮศครีมทอด
สอง ยี่ห้อนี้ต่างกันตรงที่วิธีการแปรรูปค่ะ โดยของแองเคอร์จะใช้วิธีการให้ความร้อนแบบ UHT คือ 140 C, 2 sec ส่วนโฟร์โมสจะให้ความร้อนแบบพาสเจอร์ไรส์ ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ส่วน % ไขมันของสองยี่ห้อนี้ไม่ต่างกันมากไฮศครีมทอด จัดเป็น Heavy Whipping Cream ทั้งคู่คือประมาณ 35-36% และเป็นครีมแท้ทั้งคู่ จากการที่ผ่านการให้ความร้อนต่างกัน เนื้อสัมผัสของครีมสองยี่ห้อนี้จะต่างกัน โดยแองเคอร์ให้ความร้อนสูงกว่า จะได้เนื้อครีมที่ข้นกว่า กลิ่รรสก็จะต่างกัน มันเหมือนความต่างของนม UHT และนมพาสเจอร์ไรส์ค่ะ ที่น่าสนใจคือ ครีมพาสเจอร์ไรส์จะให้กลิ่นรสครีมที่สดใหม่กว่าครีม UHT แต่คนไทยจะชินกับกลิ่นรสของนมหรือครีม UHT มากกว่า เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาไฮศครีมทอด ได้เอาครีมสองอย่างนี้มาทำไอครีมเปรียบเทียบกัน แล้วให้นักศึกษาทดสอบชิม (Sensory Evaluation) สมมุติฐานที่ตั้งไว้คือผู้ชิมจะชอบไอศกรีมที่ใช้ครีมพาสเจอร์ไรส์มากกว่า แต่ผลการชิมออกมาคือผู้ชิมขอบไอศกรีมที่ทำจากครีม UHT มากกว่า จากการสัมภาษณ์ พบว่าครีมพาสเจอร์ไรส์ให้กลิ่นคาวกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ทดสอบชิมไม่ชอบค่ะไอติมทอด ถามว่าเอาไปใช้แทนกันได้หรือไม่ ครีมทั้งสองจัดเป็น Heavy Whipping Cream ทั้งคู่ ใช้แทนกันได้ ไอติมทอดเพียง แต่กลิ่นรสของมันจะต่างกันเท่านั้นเองเพราะครีม UHT จะมีกลิ่น Cooked Flavor มากกว่า และครีมพาสเจอร์ไรส์จะมีกลิ่นคาวและความสดมากกว่า
ที่มา คุณ n0nglek ห้องก้นครัว พันทิป

ติมนมติมนม

Picture11974_thumb_up


นมสด 200 กรัม
ฝักวานิลลา 1/4 ชิ้น (ถ้าไม่มีใช้กลิ่นวานิลลาแทนได้นะคะ)
ไข่แดง 2 ใบ 
น้ำตาล 55 กรัม
วิปปิ้งครีม (แบบมีไขมัน 35%) 150 กรัม 
แยมสตรอเบอรี่ 150 กรัม 



1. ตัดฝักวานิลลาแล้วนำเมล็ดออก
2. ตั้งไฟ นำนมสดใส่หม้อ แล้วนำวานิลลาใส่ลงไป ให้ความร้อนจนนมอุ่น ปิดไฟก่อนเดือด
3. ระหว่างอุ่นนม ให้เตรียมนำ น้ำตาลทราย และไข่แดง ตีให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
4. เทนมอุ่น ลงใน ส่วนผสมข้อ 3 เบาๆ ระหว่างที่เทให้ใช้ตระกร้อตีให้เข้ากันอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเทหมดตีให้เข้ากันอีกครั้ง
5. นำส่วนผสมทั้งหมดเทลงในหม้ออีกครั้ง ตั้งไฟอ่อนประมาณ 82 ~ 83 ℃ กวนด้วยไม้พายอย่างต่อเนื่อง จนส่วนผสมเริ่มข้น
6. กรองส่วนผสมทั้งหมดลงในชาม นำชามที่มีส่วนผสม วางลงบนชามน้ำแข็ง แล้วใช้ไม้พายคนช้าๆ พักไว้ไอติมทอด
7. อีกชามให้ใส่วิปปิ้งครีมที่วางอยู่ในชามน้ำแข็ง ตีจนวิปปิ้งครีมฟูไอศครีมทอด
8. นำวิปปิ้งครีมผสมกับส่วนผสมข้อ 6 ตีให้เข้ากัน แล้วใส่แยมสตรอเบอรี่ ตีให้เข้ากันอีกครั้งไอศครีมทอด
9. นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในภาชนะที่ไว้ใส่ในช่องแช่แข็ง นำใส่ช่องแช่แข็ง 30 นาทีไอศครีมทอด
10. หลังจาก 30 นาทีผ่านไป ให้นำส่วนผสมมากวนด้วยช้อนให้ทั่วๆ ใส่ช่องแช่แข็งอีก 30 นาทีไอติมทอด
11. หลังจากผ่านไป 30 นาทีนำส่วนผสมออกมากวนอีกครั้งด้วยช้อนให้ทั่วๆอีกครั้ง เมื่อกวนเสร็จแล้วปาดหน้าให้เรียบ
12. แช่เย็นอีกประมาณ 30 นาที จะได้ไอศกรีมสตรอเบอรี่โฮมเมด ไว้ทานให้เย็นชื่นใจแล้วค่ะ ^^

วานิลลา

a0eb2-imagescar2dpfe
ส่วนผสม
น้ำตาล 1ช้อนโต๊ะ
เกลือ 6 ช้อนโต๊ะ
นม 1ถ้วย
ถุงพลาสติก2ถุง
น้ำแข็ง(ประมาณถุงใหญ่ๆ)
กลิ่นวานิลลา 1/4ช้อนชา

วิธีทำ
1.เทนม วานิลลา และน้ำตาลใส่ในถุงใบหนึ่ง แล้วปิดถึงให้แน่น(ต้องให้แน่ใจว่าแน่นจริงๆนะคะ)
2.ใส่เกลือและน้ำแข็งในอีกถุงหนึ่ง แล้วเอาถุงใบแรกใส่ในถุงนี้อีกทีไอติมทอด
3.ปิดถุงใหญ่(เอาอากาศออกด้วย)
4.เขย่าแรงๆเลยค่ะ เขย่าประมาณ5นาทีหรือพอไอติมจับตัวเป็นก้อนก็เสร็จแล้วไอศครีมทอด


ปล.เหลือจากเขย่าเสร็จแล้วมือคุณจะเค็มมาก ไม่เชื่อลองเลียดูหลังจากทำเสร็จ...ไอศครีมทอด
ปล2.ถ้าเกิดว่าไอติมมีรสเค็มแสดงว่าปิดถุงไม่สนิท(จขกทแนะนำให้เอาสก๊อตเทปมาติดไว้) หรือไม่ก็ถงมีรูรั่วไอติมทอด
ปล.3.อ้อ! แล้วก็เวลาเขย่าก็ระวังถุงขาดด้วยนะคะ(จขกทโดนมาแล้ว 555+)ไอศครีมทอด

Thursday, September 12, 2013

สูตรhomemade ice creamค่ะ เอามาจากหนังสือ may made

f1d87-ice-cream
สูตรhomemade ice creamค่ะ เอามาจากหนังสือ may made
ส่วนผสม 
- นอนแดรี่วิปปิ้งครีม หรือ rich whip topping 2 ถต.
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำตาล 1/4 ถต.
- เกลือ 1/4 ชช.
- ไข่ขาว 4 ฟอง
- บิสกิตช็อกโกแลต 1 ถต.
- กลิ่นวนิลา 1/2 ชช.
วิธ๊ทำ 
1. เตรียมชามที่จะใส่ไอศครีมไว้ไอศครีมทอด
2. การตีครั้งนี้แบ่งเป็น 3 ชาม เริ่มกันที่ชามแรกไอติมทอด
3. ตีไข่แดง น้ำตาล กลิ่นวนิลา ให้ฟูเหมือนตอนเวลาทำไข่เจียว ปริมาณจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อยสีของไข่จะอ่อนลง
4. ชามที่ 2 ตีเกลือกับครีม จนฟูไอศครีมทอด
5. ชามต่อไป ตีไข่ขาวให้ฟู ทดลองเอียงชามถ้าไข่ขาวติดชามไม่ไหลออกเป็นอันใช้ได้
6.จากนั้นกวาดวิปครีม ไข่ขาว และบิสกิตช็อกโกแลตสับลงในชามไข่แดงไอศครีมทอด
7.คราวนี้ใช้พายค่อยๆตะล่อมทุกอย่างให้เข้ากันไอศครีมทอด
8.เทใส่พิมพ์เคาะไล่ลม จากนั้นแช่ช่องแข็ง

ไอวานิลลา

Picture11222_thumb_up
ส่วนผสม
1. นมสดจืด 250 ซีซี.
2. วานิลลา 2 ชช.
3. น้ำตาลทราย 80 กรัม
4. ไข่แดง 3 ฟอง
5. แป้งข้าวโพด 1 ชช.
6. วิปปิ้งครีม 1 ถ้วยตวง
((7. ส่วนผสม เอาไว้แต่งรสชาติตามชอบ
เช่น คุกกี้โอริโอ้ ชอคชิพ ผลไม้ ถั่วไฮโซ หรือแยมรสต่างๆ etc.))

สัดส่วนนี้ ทำได้ออกมา 1 ถัง(ถังบ้านใครบ้านมัน!!!) .....

แต่สามารถแบ่ง ออกไปทำเป็นรสชาติอื่นได้ ตามใจชอบนะคะ
สูตรนี้เป็นสูตรเบื้องต้น ที่จะผสมเป็นรสอื่นๆ ได้ต่อไปอีกค่า.......

ไม่รอช้า..........มาดูวิธีทำ กันเลยดีกว่าไอศครีมทอด

1. ต้มนมกับวนิลา แค่พอขอบๆเริ่มมีฟองก็ยกลง ทิ้งนมไว้พออุ่น
***การ(scalding milk)***จะช่วยลดการเกิดเกล็ดน้ำแข็ง ทำให้เนื้อไอศกรีมเนียน
=============================*
2.ตีไข่แดงกับน้ำตาลจนขึ้นฟู***ไข่แดงในไอศกรีมทำให้ไขมันกับน้ำรวมตัวกันดีขึ้น
ทำให้ไอศกรีมเข้มข้น มีรสสัมผัสละมุนลิ้น ยามมันละลาย***
=============================*
3. ค่อยๆ เทนมอุ่นลงไป เติมแป้งข้าวโพด พร้อมตีผสมกันไปด้วย

4.พอ เข้ากันดี ก็ยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง คนไปเรื่อยๆ ตลอดเวลา ควรให้ได้อุณหภูมิได้ประมาณ 83 องศาอย่าให้เกิน 87 องศาซี((เพราะไข่จะเริ่มสุก เดี๋ยวได้ไอติมแบบไข่เป็นลิ่มๆ ไม่ดีค่ะ))........ ส่วนผสมเริ่มข้นขึ้น เป็นฟิล์มบางๆ หลังพายทัพพีไอศครีมทอด

5. ยกลงจากเตา กรองส่วนผสม ด้วยกระชอน 2 รอบ เพื่อเอาส่วนที่เป็นลิ่มๆ ออกไป ((เดี๋ยวไอติมเราไม่เนียน))....... ก็จะได้ คัสตาร์ด ที่เป็นหัวเชื้อ แบบนี้มา

6. พักไว้ให้เย็น อาจตั้งทิ้งไว้ให้เย็น หรือใครใจร้อน ก็เอาก้นชามผสมแช่ในอ่างน้ำแข็งก็ได้ .....แล้วเทใส่ถุง หรือ ภาชนะมีฝาปิดสนิท แล้วนำไปบ่ม....
***การ "บ่ม" (age) วีธีก็คือทำให้เย็น โดยเอาไปใส่ตู้เย็นไอศครีมทอด
แช่ไว้ช่องธรรมดาก็พอค่ะ จุดประสงค์ก็เพื่อปรับอุณหภูมิให้พร้อมสำหรับขั้นตอนเย็นจนแข็งตัว(freezing) ต่อไป***

7. บ่มคัสตาร์ดไว้สัก4 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ มีคนบอกว่าค้างคืนได้ยิ่งดีไอศครีมทอด
=============================*
8. เช้าวันต่อมา........... (-_-“) 
นำวิปปิ้งครีม ตั้งยอดอ่อน
=============================*
แล้วนำเอาคัสตาร์ดที่บ่มได้ที่แล้ว เทผสมลงไป...... ..คนให้ผสมเข้ากันดี
***วิปปิ้งครีมจะทำให้ไอศกรีมเนื้อดูดี เนียนและมีปริมาตร ( texture )มากขึ้น***....
=============================*
ได้ออกมา เนื้อเนียนๆ ฟูๆ ข้นๆ แบบนี้ค่ะ
============================*
9.จากนั้นเอาไปใส่ในช่องฟรีซ 1-2 ชั่วโมง
เพื่อดำเนินการขั้นทำให้แข็ง(freezing) ต่อไป
ส่วนผสมตอนเอาออกมาข่วนช่วงแรกนี้ยังนุ่มนะคะ
เพราะเพิ่งเข้าไปแช่แข็งไม่นาน อาจใช้ส้อมหรือใช้ที่ตีไข่ก็ได้ไอศครีมทอด

จากนั้นก็เอากลับเข้าไปแช่แข็งใหม่ทำซ้ำแบบนี้ 3-4 รอบไอศครีมทอด
ช่วงเวลาแต่ละครั้งก็ ชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมงไอติมทอด
(((ครั้งหลังๆจะข่วนยากขึ้นหน่อย เพราะส่วนผสมจะแข็งขึ้นเรื่อยๆ)))

10. ให้สังเกตดูความเนียนและไม่ขึ้นเกล็ดน้ำแข็ง ***การ ที่ไอศกรีมจะมีเนื้อที่นุ่มเนียน ส่วนผสมต้องไม่เป็นเกล็ดน้ำแข็ง(crystal) จะให้รสสัมผัสที่นุ่มลิ้น โดยที่เราต้องเอาส่วนผสมมาทำให้เกิดฟองอากาศเข้าไปแทรก*****

ถ้าอยากใส่ส่วนผสมเพื่อให้เกิดรสอื่นๆก็ทำในขั้นตอนครั้งสุดท้ายไอติมทอด
เช่นเอาคุกกี้บิแล้วคลุกได้เลย แล้ว ....
ตักส่วนผสมเปลี่ยนมาใส่ในกล่องที่มีฝาปิดแน่นๆไอศครีมทอด
เอากลับไปแช่ช่องฟรีซ 3-4 ชั่วโมงเพื่อให้เนื้อไอศกรีมแข็งแน่นขึ้น(hard)

ไอติม ไอติม ไอติม

   Picture12034_thumb_up
ตอน นี้ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็เจอแต่ไอร้อนที่พวยพุ่งขึ้นจากพื้นดิน ยังนับไม่รวมแสงแดดในช่วงกลางวันที่ร้อนจนทำให้หลาย ๆ คน แทบจะเป็นลมกันเลยทีเดียว ทางกระปุกดอทคอมจึงนำเมนูไอศกรีมเย็น ๆ รสชาติกลมกล่อมแบบไทย ๆ มาฝากกัน นั่นคือ ไอศกรีมกะทิสูตรโบราณ ซึ่งสูตรนี้ไม่ต้องใส่นม หรือใส่ครีม ก็อร่อยล้ำ เย็นฉ่ำ ชื่นใจกันได้ง่าย ๆ แต่ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณ narellan ที่นำวิธีทำสุดแสนจะง่ายนี้มาแบ่งปันกัน ....เอาล่ะ อย่ารอช้า เรามาดูขั้นตอนการทำไอศกรีมกะทิกันเลยดีกว่าไอศครีมทอด
ส่วนผสม
          1. กะทิกล่อง หรือกะทิกระป๋องสูตรเข้มข้น ขนาด 560 มิลลิลิตร   
          2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
          3. เกลือ ¾ ช้อนชา
          4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
          5. เนื้อมะพร้าวอ่อนขูดเป็นเส้น (มีหรือไม่มีก็ได้)
วิธีทำ
          1. เทกะทิทั้งหมด ผสมกับน้ำเปล่า 2 ถ้วย หรือถ้ามีน้ำมะพร้าว ก็ให้ใช้น้ำมะพร้าว กับน้ำเปล่าอย่างละ 1 ถ้วย เพื่อเพิ่มความหอมหวานของกะทิมากขึ้น 
          2. นำกะทิไปตั้งไฟ แล้วค่อย ๆ เทน้ำตาลทรายผสมลงไป จากนั้นคนให้เข้ากันจนกะทิเดือด
          3. นำกะทิมาพักให้เย็น จากนั้นเทใส่ภาชนะที่เหมาะกับการแช่เย็นไอศครีมทอด
          4. นำภาชนะดังกล่าวไปแช่ในช่องแข็ง จนกะทิเริ่มแข็งตัว ไอศครีมทอด
          5. ในการแช่กะทิ ให้สังเกตุว่ากะทิเริ่มเป็นเกล็ดหรือยัง หากเริ่มเย็นจนเป็นเกล็ดแล้ว สามารถนำออกจากตู้เย็น โดยไม่ต้องรอให้กลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลานานพอสมควร
          6.นำกะทิดังกล่าวมาปั่น หากไม่มีเครื่องปั่นสำหรับทำไอศกรีม สามารถใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้ธรรมดาแทนได้ค่ะไอศครีมทอด
นำกะทิใส่เครื่องปั่น และปั่นจนกว่าเนื้อไอศครีมจะละเอียด จากนั้นนำไปแช่ในช่องแข็งอีกรอบไอติมทอด
เมื่อ เนื้อไอครีมที่ปั่นรอบแรกเริ่มเป็นน้ำแข็ง ก็ให้นำออกมาปั่นใหม่อีกครั้ง โดยคราวนี้ให้ใส่ไข่ขาวลงไป 1 ฟอง เมื่อเครื่องปั่นตีกะทิกับไข่ขาวจนเข้ากันแล้ว จะเห็นว่าเนื้อไอศครีมขาว และฟูขึ้น จากนั้นจึงนำไปแช่ในช่องแข็งอีกรอบ นำไอศกรีมที่แช่จนเป็นเกร็ดแล้วมาปั่นอีกรอบ เพื่อให้เนื้อไอศกรีมเนียนฟูมากยิ่งขึ้น หากใครชอบทานไอศกรีมกะทิ แบบมีเนื้อมะพร้าวด้วย ให้นำเนื้อมะพร้าวอ่อนที่เราขูดไว้ มาผสมกับไอศกรีมกะทิที่ปั่นในรอบที่สาม แต่ในครั้งนี้ควรปั่นเพียงเล็กน้อยพอให้เนื้อมะพร้าวเข้ากันค่ะ หรือจะปั่นรอบที่สามให้เสร็จก่อน แล้วค่อยใส่เนื้อมะพร้าวแล้วปั่นอีกนิดก็ได้ค่ะ เพียงแค่นี้ เราก็จะได้ไอศกรีมกะทิแสนอร่อย เอาไว้ทานเพื่อคลายร้อนกันแล้วล่ะ...อ้อ เคล็ดลับความอร่อยของไอศกรีมกะทิจะอยู่ที่การปั่นเนื้อไอศกรีมให้ละเอียด ยิ่งปั่นหลายรอบ เนื้อไอศกรีมก็จะยิ่งเนียนฟูมากขึ้น แต่วิธีที่เรานำมาฝากนี้จะเป็นแบบเร่งรัดจ้า ใครลองนำสูตรนี้ไปทำแล้วได้ผลอย่างไรบ้าง อย่าลืมแวะมาคุยกันบ้างนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนอร่อยกับไอศกรีมกะทิสูตรโบราณจ้า

Wednesday, September 11, 2013

ที่มาของไอศครีมช็อกโกแลตชิพ

art_41958500
กาล ครั้งหนึ่งซึ่งนานเท่าไรฉันเองก็ไม่รู้    ณ ดินแดนแห่งขนมหวาน  มีขนมหวานมากมาย ทั้งลูกกวาด ขนมปัง   เค้ก  รวมไปถึง ไอศครีม และช็อกโกแลต   ในตอนนั้นตระกูลไอศครีมได้รับเลือกให้เป็นพระราชาของเมือง   มีไอศครีม ชาเขียวเป็นราชา ไอศครีม สตอเบอรี่ เป็นราชินี   และมีลูกชาย คือ เจ้าชาย วนิลา ผู้มีรูปโฉมงดงาม   สีขาวนวลดูสะอาด สง่าสมกับเป็นเจ้าชาย   พระราชาได้หมั่นหมายเจ้าชายวนิลา ให้แต่งงานกับเจ้าหญิง น้ำแข็งใส ผู้อ่อนหวาน   น่ารัก   วันหนึ่งเจ้าชายเสด็จไปเยี่ยมชมเมือง   ได้พบเจอกับขนมหวานหลายชนิดไอติมทอด   เจ้าชายเดินไปเรื่อย ๆ ผ่านบ้านลูกกวาด   บ้านขนมปัง   เจ้าชายเพลิดเพลินกับการเที่ยว จมลืมไปว่าต้องกลับวังให้ทันภายใน 1 ชม. มิฉะนั้นเจ้าชายจะต้องตายเพราะละลายกลายเป็นน้ำ   ตอนนี้ ตัวของเจ้าชายค่อย ๆ นิ่มลง นิ่ม ลง ผิวด่านนอกค่อย ๆ ละลาย หยดไปทีละหยด ละหยด เจ้าชายทรมานมาก พยายามจะกลับไปวังแห่งความเย็น แต่ตัวของเจ้าชายก็นิ่มเกินกว่าจะกลับไปถึงวังได้ เจ้าชายได้แต่ยืนอยู่กับที่ รอเวลาที่ละลาย ตายจากโลกนี้ไป แต่ในทันใดนั้นเอง   ก็มีมือน้อย ๆ ที่แข็งแรง มาคอยประกองเจ้าชายไว้   เจ้าชายหันไปมอง เขาได้พบกับ ๙อกโกแลตสาว   ที่มีรูปร่างหน้าตาน่าเกลียด   สีดำ ไม่สวยเหมือนขนมอื่น ๆ ในดินแดนนี้   เธอนำตัวของเธอมารองรับน้ำไอศครีมที่ละลายออกจากตัวเจ้าชายไว้   พร้อมกับพูดว่า เราจะพาท่านกลับวังเอง ถึงแม้ว่าตัวเราจะหักเป็น 2 ท่อนเพราะตัวท่านก็ตาม   หลังจากนั้น ชอกโกแลตก้ได้พาเจ้าชายวนิลา ไปสู่เมืองได้ทันเวลา ทหารออกมารับตัวเจ้าชาย เขาไปในห้องแช่แข็งแบบเร่งด่วน   แล้วก้ได้ไล่ชอกดกแลตสาวออกไป เพราะเห็นว่าน่ารักเกียจ ตัวเป็นสีดำ หลังจากวันนั้นเจ้าชายก็ไม่ได้พบกับช็อกโกแลตสาวอีกเลย เพราะเจ้าชายได้ลืมเธอไปแล้ว   แต่เจ้าชายหารู้ไม่ว่า เธอไม่เคยลืมเจ้าชายวนิลาเลยไอติมทอด   เพราะว่าเธอได้หลงรักเจ้าชายวนิลา หลงรักมานานมากแล้ว เจ้าชายคงลืมไปแล้วเมื่อว่าทรงพระเยาว์ เจ้าชายชอบออกมาเล่นข้างนอกวัง แล้วทุกครั้งพระองค์เล่นจนลืมเวลา ตัวของเจ้าชายก็จะละลาย และทุกครั้งคนที่ช่วยเหลือเจ้าชายไว้ก็คือ ช็อกโกแลตนี้เอง ที่ยอมเอาชีวิตของเธอแลกกับชีวิตเจ้าชาย  เพราะทุกครั้งที่เธฮช่วยเจ้าชาย ความเย็นจากตัวเจ้าชาย จะทำให้ชอกโกแลตแข็งตัว เธออาจจะตัวหักลงมาได้ทุกเมื่อ แต่เธอก็ยอมทำ เพื่อคนที่เธอรัก  แต่เธอรู้ตัวดีว่าเธอเป็นได้แค่เพื่อน หรืออาจไม่ได้เป็นอะไรที่สำคัญสำหรับเจ้าชายวนิลาเลย เธอรู้ว่าเธอต้อยต่ำเกินกว่าที่เจ้าชายวนิลาจะเหลียวมอง แต่เธอก็เลือกที่จะรัก รักเจ้าชายแบบนี้ตลอดไป ถึงแม้เจ้าชายจะไม่เคยเห็นความรักที่เธอมีให้เลย แต่เธอก็จะรัก รัก จนกว่าเธอจะจากโลกนี้ไปไอศครีมทอด       
เมื่อ วันแต่งงานมาถึง เจ้าชายวนิลา จะเข้าพิธีกับเจ้าหญิงน้ำแข็งใส   มีการแห่ขบวนแต่งงานไปรอบเมือง ในขณะที่ทุกคนในเมืองต่างยินดีปรีดาอยู่นั้น   หารู้ไหมว่า มีคนลอกจะทำร้ายเจ้าชายวนิลา นั้นคือ เจ้าชายขนมเค้ก ของเมืองขนมเค้ก ที่โกดเจ้าชายที่ได้แย่งเจ้าหญิงน้ำแข็งใสคนรักของเขาไป วันนี้เขาได้เตรียมธนูไฟมายิงให้เจ้าชายละลาย ตายไปต่อหน้าผู้คนทั้งเมือง   เมื่อรถขบวนแห่แล่นมาถึงวงเวียนกลางเมือง เจ้าชายเค้กก็ยิงธนูไปที่เจ้าชายวนิลา   ปัก ! ธนูปักเข้าไปทำให้ร่างแตกสลายละลายกลายเป็นน้ำ   ทุกคนในเมืองตกใจ นิ่งไปชั่วขณะ ทันใดนั้นก็มีมือ มือเดิมที่เคยช่วยเหลือเจ้าชายไว้ทุกครั้ง ชอกแลตสาวรีบน้ำตัวของเธอมารับร่างที่ละลายของเจ้าชายไว้แล้วรีบพาเจ้า ชายกลับวัง แต่มันสายเกินไป เจ้าชายจากโลกนี้ไปแล้ว ชอกโกแลตสาวนั่งสิ้นหวังอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เธอเสียใจ ที่เธอช่วยเจ้าชายไม่ทัน เธอรักษาชีวิตคนที่เธอรักไม่ได้ เธอนั่งร้องไห้ น้ำตาที่ไหลลงบนพื้นดินทำให้นางฟ้าแห่งดิน เกิดความสงสาร นางฟ้าปรากฏตัวขึ้น อย่าร้องไห้ไปเลยชอกโกแลตสาว เรายังมีทางแก้ไขให้เจ้าชายกลับคืนมาไอศครีมทอด   แต่มันต้องแลกด้วยชีวิตของเธอ   เพราะตอนนี้ร่างของเจ้าชายอ่อนนิ่มมาก จะนำไปชุบชีวิตใหม่จะต้องอาศัยส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และสิ่งนั้นก็คือ ชอกโกแลต เพราะเมือ่ชอกโกแลตเจอกับความเย็นก็จะมีความแข็งแรง พอที่จะช่วยยึดร่างกายเจ้าชายไว้ได้   เธอจะยอกสละชีวิตเธอเพื่อเขาได้ไหมล่ะ   ได้ค่ะ ฉันยอมสละได้ทุกอย่าง นางฟ้าจึงถามว่าทำไมเธอถึงยอมสละแม้กระทั้งชีวิตเพื่อผู้ชายคนนี้ละ ชอกโกแลตตอบไปว่า ก็เพราะฉันรักเจ้าชายวนิลา    รักมาก รักมานานแล้ว แล้วจะรักตลอดไป เพื่อเขาแล้วฉันยอมให้ได้ทุกอย่าง แม้แต่ชีวิตของฉัน   เพราะเจ้าชายคือคนที่ฉันรัก เพื่อเขาแล้วแม้ฉันต้องตาย ฉันก้ไม่เสียใจ ที่ได้ตายเพื่อคนที่ฉันรักที่สุด ถ้าเจ้าตัดสินใจแล้ว เราก็จะช่วยเจ้า เรานำคทาเสกเจ้าให้กลายเป็นชิ้น เล็ก ๆ เจ้าจะทรมานมาก เจ้าทนได้ไหม   ได้ค่ะ ชอกโกแลตตอบ นางฟ้าเสกให้ชอกโกแลตกลายเป็นชิ้นเล็ก ๆ   แล้วนำมารวมกับร่างเจ้าชายวนิลา   เจ้าชายวนิลาค่อย ๆ รู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมาพบกับนางฟ้าไอศครีมทอด
เจ้าชาย     “ นี่เราตายไปแล้วไม่ใช่หรอ แล้วเรามาอยู่ที่นี้ได้ไง ”
นาง ฟ้าจึงตอบไปว่า   “ มีคนยอมสละชีวิตของเขาเพื่อท่าน   เขายอมแลกชีวิตของเขาเพื่อให้ท่านมีชีวิตต่อ ท่านลองมองตัวเองซิ เขาอยู่ในตัวท่านเพื่อให้ท่านแข็งแรงมากกว่าเดิม ”
  “ ชอกโกแลต ” เจ้าชายกล่าว
“ ใช่ ชอกโกแลตยอมสละตัวของนางเพื่อท่าน ”   นางฟ้าตอบไอศครีมทอด
เจ้าชาย   “ ทำไมนางถึงทำเพื่อข้าได้มากขนาดนี้ล่ะ ”
“ ท่านไม่รู้จิง ๆ น่ะหรือ ก้เพราะความรักยังไงละ   ความรักทำให้คนเรายอมแลกทุกอย่างเพื่อคนที่เรารัก นางรักท่านมาก ”  นางฟ้าตอบไอศครีมทอด
“ แล้วทำไมนางไม่บอกกับข้าละว่านางรักข้า ” เจ้าชายถาม
“ ก็เพราะว่านางรู้ตัวน่ะซิ ว่าท่านคงไม่มีวันที่จะรักชอกโกแลต ที่ตัวดำ รูปร่างไม่สวยงามเหมือนขนมอื่น ๆ นางจึงไม่บอกท่านเพราะบางครั้งการรักใครสักคนก็ไม่จำเป็นต้องพูดไป แค่ได้ทำเพื่อคนที่เรารักเพียงแค่นี้ก็ดีเกินพอแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็นคุณค่าของความรักเราเลยก็ตาม แต่เราก็มีความสุขได้ เพราะความรักคือการให้ ”   นางฟ้าตอบไอศครีมทอด
เจ้า ชาย นิ่งไปชั่วขณะรักแท้ที่เขาได้ตามหามานานแสนนาน   คนที่รักเขาอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ คนที่รักเขาแบบที่ตัวเขาเป็น กลับอยู่ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่เจ้าชายกลับมองไม่เห็นเลย เจ้าชายเสียใจมาก ที่ไม่มีโอกาสได้มอบความรักตอบแทนให้กับชอกโกแลต แต่ตอนนี้เจ้าชายวนิลากับชอกโกแลตสาวก็ได้กลายมาเป็นคนคนเดียวกัน มีชื่อเรียกกันว่า ไอศครีมชอกโกแลตชิพ   กลายมาเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของชอกโกแลตสาวที่มีให้เจ้าชายวนิลา และแล้วเรื่องนี้ ก็มาจบลงที่ ถ้วยไอศครีมไอศครีมทอด

ไอศกรีมช็อคโกแลต

ไอศกรีมช็อคโกแลต?.................เราไม่ง้อเครื่องปั่น(อีกแล้ว)
(C) 2003 Gateway,Inc.
ส่วนผสม
นมสด                       300   ซีซี
ไข่แดง                         4   ฟอง
น้ำตาล                        80   กรัม (1/3 ถ้วย+1ช้อนโต๊ะ)
วิปปิ้งครีม                  100   ซีซี
ช็อคโกแลต               150   กรัม (B_Chanใช้ช็อคฯชิพ 1ถ้วยค่ะ)

วิธีทำ
1. สับช๊อคโกแลตแล้วนำไปละลาย โดยเตรียมหม้อใส่น้ำร้อนแล้วเอาหม้อที่ใส่ช็อคโกแลตวางทับ (แอบขี้โกงใช้ช็อกโกแลตชิพ ฮี่ๆ)
2. ต้มนมให้พอเดือดแล้วรีบยกลง (ไม่เอาฟองฟอดนะคะ)ไอศครีมทอด
3. ตีไข่แดงในชามผสมจนเป็นฟองแล้วใส่น้ำตาลคนให้ละลายไอศครีมทอด
4. ผสมนมที่ต้มไว้ลงในชามไข่แดงตีให้เป็นฟองไอศครีมทอด
5.นำไปตั้งไฟโดยใช้ไม้พายคน+ขยี้ คนไปเรื่อยๆจนกว่าจะข้นเป็นครีมจึงยกลง(คล้ายๆทำไส้คัสตาดค่ะ)ไอศครีมทอด
6.นำครีมที่ได้ถ่ายใส่ชามผสมแล้วซ้อนกับชามอีกใบที่ใส่น้ำเย็นตีครีมให้เป็นฟอง เพื่อลดอุณหภูมิไปด้วย
7.ตีวิปปิ้งครีมให้เป็นฟอง(7-8นาที)ไอติมทอด
8. ค่อยผสมส่วนจากข้อ1 และ7ลงครีมข้อ8ตามลำดับ
9. แช่ฟรีช2-3ชั่วโมง เพื่อให้เริ่มแข็งแล้วเอามาตีด้วยมือหรือเครื่องค่ะ แล้วแช่ฟรีชอีก 60-30นาที ทำซ้ำประมาณ2-3รอบค่ะ

ไอติมช็อคโกแล็ตชิพ

(C) 2003 Gateway,Inc.

ไอติมช็อคโกแล็ตชิพ

ส่วนผสม
 ไข่แดง 6 ฟอง
น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย
วานิลา 1 ช้อนโต๊ะ
เฮฟวี่ครีม 1 ถ้วย
นมสด 2 ถ้วย
ช็อคโกแล็ตชิพ 1 ถ้วย
 
 วิธีทำตอกไข่ใส่ชามผสม ตีด้วยตะกร้อมือประมาณ 2-3 นาที จนเป็นครีมเนียน
ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีต่อให้เข้ากัน น้ำตาลไม่ต้องถึงกับละลายหมดก็ได้ค่ะไอศครีมทอด
นำนมใส่หม้อตั้งไฟแบบ double boiler จนกระทั้งพอเดือด ตั้งทิ้งไว้อย่างนั้นก่อนนะคะ
แบ่งนมที่ยังร้อนๆ อยู่ มา 1/2ถ้วย เทลงในส่วนผสมของไข่ คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือไอศครีมทอด
เทส่วนผสมที่ได้กลับลงไปในหม้อนมที่ยังตั้งไฟอยู่ ไอศครีมทอด
คอยคนอยู่เรื่อยๆ จนส่วนผสมข้นขึ้น ประมาณ 10 นาที ยกลงจากเตา ทิ้งไว้พออุ่น จากนั้นใส่เฮฟวี่ครีมและวานิลาลงไป
คนทั้งหมดให้เข้ากัน ทิ้งไว้ให้เย็นสนิทไอศครีมทอด
พอส่วนผสมเย็นดีแล้ว คลุมด้วยพลาสติก นำเข้าแช่ฟรีซจนเย็นจัดประมาณ 45 นาที (หรือจะแช่ตู้เย็นธรรมดาค้างคืนไว้ก็ได้)
นำส่วนผสมที่เย็นจัดดีแล้ว ใส่ในเครื่องปั่นไอติม พอปั่นจนเป็นเนื้อไอศครีมดีแล้ว ก่อนปิดเครื่อง 1-2นาที ให้ใส่ช็อคโกแล็ตชิพลงไป
ปั่นต่ออีกประมาณ 1-2 นาที จนช็คคโกแล็ตเข้ากันกับเนื้อไอติมดีไอติมทอด
จากนั้นเทใส่ภาชนะที่มีฝาปิด นำแช่ฟรีซอีกครั้งพอให้เนื้อไอศรีมแข็งขึ้น เสร็จแล้วก็ทานได้เลยค่ะ ไอศครีมเย็นๆ เหมาะกับวันแดดอุ่นๆ

Monday, September 9, 2013

ติมมะม่วง

Picture12035_thumb_up
ไอศกรีมมะม่วงนั้น อร่อยมากๆ เป็นการนำเนื้อมะม่วงสุก นิยมเลือกใช้มะม่วงน้ำดอกไม้สุก จะได้รสชาติที่หอมอร่อย เป็นการดัดแปลงเลือกใช้ผลไม้ตามฤดูการที่ชาญฉลาดมาทำเป็นไอศครีมไอศครีมทอด

ส่วนผสม
มะม่วงน้ำดอกไม้สุก หั่นชิ้น 1 ผล
ไข่ขาว 4 ฟอง
วิปปิ้งครีม 1 ถ้วยไอศครีมทอด
น้ำตาลทรายละเอียด 4 ช้อนโต๊ะ
ยอดสะระแหน่สำหรับตกแต่งไอศครีมทอด

วิธีทำ
1. เริ่มจากนำเนื้อมะม่วงน้ำดอกไม้สุก มาปั่นให้ละเอียด เทใส่อ่างผสม เติมวิปปิ้งครีม คนด้วยตะกร้อให้เข้ากันดี พักไว้ก่อนไอติมทอด

2. ตีไข่ขาวด้วยตะกร้อในอ่างผสมให้ขึ้นฟู จึงค่อยๆใส่น้ำตาลลงไปทีละน้อย ตีเข้าด้วยกัน จนหมด ตักไข่ขาวที่ตีใส่อ่างมะม่วง คนด้วยตะกร้อให้เข้ากันดี พักไว้

3 เทส่วนผสมไอศกรีมลงปั่นในเครื่องปั่นไอศครีมตามขั้นตอน ใช้เวลาปั่นนาน 25-40 นาที จึงตักไอศครีมลงในภาชนะเพื่อแช่แข็งต่อไป

4.ตักใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยเนื้อมะม่วงสุกหั่นชิ้น และใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟได้ทันทีไอติมทอด
เขียนโดย tarad

เชอร์เบท

มีความเชื่อที่ถ่ายทอดกันต้องมาว่า จีนเป็นต้นกำเนิดของไอศครีมที่มาร์โคโปโลได้พบเห็น
ในศตวรรษที่ 13 และนำกลับไปเผยแพร่ในอิตาลีเรื่องนี้นักประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง
มาร์โคโปโลมิได้เขียนไว้อย่างนั้น หรือกระทั่งอาจเป็นไปได้ว่า มาร์โคโปโลมิได้ไปเมืองจีนเสียด้วยซ้ำ
แต่เขียนขึ้นจากจินตนาการและการตีความบันทึก

Picture11872_thumb_up
ข้อ เขียนของนักเดินทางคนอื่น เอลิซาเบท เดวิดผู้ศึกษาประวัติศาสตร์น้ำแข็งอย่างถึงแก่นยังอ้างว่า แม้จะใช้น้ำแข็งถนอมอาหารและแช่ผลไม้มา
ช้านาน แต่คนจีนก็ไม่เคยมีวัฒนธรรมเครื่องดื่มผสมน้ำแข็ง ก่อนที่จะได้รับอิทธิพลจากฝรั่งต่างชาติไอศครีมทอด
เมื่อประมาณกว่าร้อยปีที่แล้วพิจารณาจากหลักฐาน และผลการศึกษาทั้งหมดแล้ว ข้อสรุปที่เห็นสอดคล้องกันมากที่สุดก็คือไอศครีมทอด
เชอร์เบทของตุรกีและเปอร์เซีย ซึ่งเดิมเป็นน้ำผลไม้ปรุงรสหวานหอม หรือไซรัป น้ำผลไม้ราดน้ำแข็งและอาจเติมน้ำด้วยหรือไม่ก็ได้ไอศครีมทอด
เป็นจุดเริ่มต้น ของ ไอศกรีมเชอร์เบทแพร่เข้าไปในอิตาลีและฝรั่งเศสในสมัย

ศตวรรษที่ 16 ชาวอิดาลีเรียกว่า sorbetto และ
ฝรั่งเศส เรียก sorbet เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้นที่เรียก sherbet ล้อตาม serbet ของตุรกี แต่ขณะเดียวกันก็เรียก sorbet ตามแบบฝรั่งเศสด้วยไอศครีมทอด

แม้ ในภายหลังที่เครื่องดื่มชนิดนี้ในตะวันตกเปลี่ยนไปแบบเเช่เเข็ง (frozen sherbet) แล้ว ซึ่งต้องกินมิใช่ดื่ม ฝรั่งก็ยังเรียก sherbet หรือ sorbetไอศครีมที่เป็นน้ำนมแช่แข็งเริ่มขึ้นที่ไหนเมื่อไร
ยังสรุปแน่นอนไม่ได้ กระแสหนึ่งว่าไอศครีมเริ่มพัฒนาขึ้นก่อนในอิตาลี สมัยศตวรรษที่ 17 แล้วไอติมทอด
แพร่ไปยังฝรั่งเศส จากนั้นจึงต่อไปยังอังกฤษและประเทศอื่นๆในยุโรป แต่อีกกระแสหนึ่งชี้ว่าอินเดีย
ไอศครีม
สมัยจักรพรรดิอัคบา (ศตวรรษที่ 16) มีไอศครีมKulfi ซึ่งเป็นน้ำนมเคี่ยวจนข้นแต่งรสและแช่แข็ง
แล้ว โดยรับมาจากถิ่นฐานเดิมของโมกุลในเปอร์เซียอีกทอดหนึ่งในอิตาลีและฝรั่งเศส ไอศครีมและไอศครีมผลไม้
หรือ frozen sherbet แพร่หลายขื้นก่อนในร้านกาแฟซึ่งในยุคนั้นกำลังได้รับความนิยม ขายเครื่องดื่มไอติมทอด
จำพวกชา กาแฟ และช็อกโกแลต ส่วนในอังกฤษกลับเป็นร้านขนมหวาน (confectioners) ที่เริ่มทำไอติมทอด
ไอ ศครีมขาย เข้าใจว่าในระยะแรกๆไอศครีมคงเป็นครีมหวานแข่แข็งธรรมดา ต่อมาเครื่องปั่นมีคุณภาพมากขึ้น จึงได้เนื้อไอศครีมที่เนียนนุ่มขึ้นเรื่อยๆ
เขียนโดย tarad

ไอติม

ไอครีมเป็นของหวานยอดนินม ที่คนทุกเพศทุกวัยชื่นชอบ เพราะกินแล้วมีความสุข รู้สึกสดชื่น
5ED339B2-0E37-4B23-A0D6-D008E0DB2437
โดย เฉพาะเด็กๆและวัยรุ่น จะชอบกินไอครีมเป็นพิเศษ รสหวานมัน บวกกับเนื้อเนียนนุ่มของไอครีม ที่ละลายเย็นๆในปาก กระตุ้นให้รู้สึกมีความสุขและสดชื่นมากอย่างบอกไม่ถูก ไม่เพียงแต่ในฤดูร้อน
หรือในประเทศเขตร้อนเท่านั้นที่ไอครีมเป็นที่ชื่นชอบในหน้าหนาวและในประเทศที่หนาวจัดมากๆ
อย่างในรัสเซีย คนก็ยังนิยมกินไอครีม ชาวตะวันตกนับแต่สมัยโรมันจนถึงศตวรรษที่ 14-15 ใช้หิมะและ
น้ำแข็งเพื่อแช่ไวน์ให้เย็นในหน้าร้อนเป็นสำคัญ จะมีก็แต่ในเปอร์เซียและตุรกีเท่านั้นที่ใช้หิมะไอศครีมทอด
และน้ำแข็งมาทำเป็นเครืองดื่มหวานเย็นที่เรียกว่า sharbat หรือ sherbet
ความนิยมกินไอครีมเกิดขึ้นและแพร่หลายไป ตามการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมและ
การค้าไอครีมในตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา ทำให้ไอครีมเป็นของซื้อกิน ที่รถเร่
ที่ร้านไอครีม และที่ตู้ไอครีมกล่องหรือไอครีมกระป๋องสารพัดยี่ห้อในซุปเปอร์มาร์เก็ต มากกว่าไอศครีมทอด
จะทำกินเองที่บ้าน น้อยคนที่ทำไอครีมกินเองแม้เพียงแต่คิดก็ยังไม่มี ทั้งๆที่ไอครีมเป็นของที่ทำไอศครีมทอด
เองได้ง่ายมาก

อย่างไรก็ตามในสังคมตะวันตกปัจจุบัน โดยเฉพาะในสหรู้ฐอเมริกา ได้เกิดกระแสย้อนอดีตหวน
กลับไปหาไอครีมโฮมเมดและปั่นไอครีมกินเองที่บ้านมากขึ้น ทั้งนี้ด้วยเหตุผลง่ายๆว่า ทำกินเอง
ที่บ้านนะง่าย อร่อยได้คุณภาพได้กับสุขภาพ และดีกับครอบครัว มากกว่าชื้อกินเป็นไหนๆไอศครีมทอด

หิมะ และน้ำแข็งมนุษย์ รู้จักเก็บรักษาหิมะและน้ำแข็งธรรมชาติเพื่อมาใช้ประโยชน์แต่ครั้งบุพกาล หลักฐานเก่าแก่ที่ สุด คือ การค้นพบโรงเก็บหิมะและน้ำแข็งในเขตเมโสโปเตเมียซึ่งมีอายุประมาณ 4,000 ปี ในจีนก็พบหลักฐานทำนองเดียวกันนี้ ที่แสดงว่ามีการใช้หิมะและน้ำแข็งมาตั้งแต่ราว 1,000 ปี ก่อนคริสตกาล คนใบราณเอาหิมะและน้ำแข็งธรรมชาติมาใช้ประโยชน์อะไร เรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบที่สมบูรณ์นัก แต่สรุปได้ว่าคนจีนโบราณใช้หิมะและน้ำแข็งธรรมชาติในการถนอม อาหารสดเป็นหลัก ส่วนชาวตะวันตก นับแต่สมัยโรมันจนถึงศตวรรษที่ 14-15 ใช้หิมะและน้ำแข็งเพื่อ แช่ไวน์ไว้ดื่มเย็นในหน้าร้อนเป็นสำคัญ จะมีก็แต่ในเปอร์เซียและตุรกีเท่านั้นที่ใช้หิมะและน้ำแข็งมาทำ เป็นเครื่องดื่มหวานเย็นที่เรียกว่า sharbatหรือ sherbetอ้างกันว่าชาวเปอร์เซียเนละเติร์กดื่มหรือกินชาร์บาท เพื่อดับกระหายในหน้าร้อนมาช้านาน อย่างน้อยก็ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ice
โรง เก็บน้ำแข็ง หรือ lce house มีมาแต่สมัยโบราณ โรงขนาดใหญ่เก็บน้ำแข็งไว้ขาย แต่ตาม บ้านเศรษฐีและขุนนางก็นิยมมีโรงน้ำแข็งขนาดย่อม เพื่ออำนวยความสะดวกและประดับบารมีของ ตนเช่นกัน โรงขนาดใหญ่มิได้เก็บเฉพาะหิมะและน้ำแข็งธรรมชาติที่ขนส่งมาจากยอดภูเขาอัน ห่างไกลเท่านั้น แต่ยังมีน้ำแข็งจากนาน้ำแข็ง ที่เก็บเกี่ยวได้ในค่ำคืนฤดูหนาวอันเย็นยะเยือก มีหลักฐานแสดงว่ามีนาน้ำแข็งเเละโรงเก็บน้ำแข็งขนาดใหญ่ ในเปอร์เซียตั้งแต่สมัยโบราณ ในยุโรปและอินเดียก็มีการทำนาน้ำแข็งเหมือนกัน

เมื่อ รู้จักใช้ประโยชน์จากหิมะและน้ำแข็งจากธรรมชาติ ตลอดจนการทำนาน้ำแข็ง ความพยายามที่จะทำน้ำแข็งขึ้นใช้เองย่อมติดตามมา การที่สารบางชนิด อาทิ เกลือ ดินประสิว แอมโมเนีย ฯลฯ เมื่อผสมกับหิมะหรือน้ำแข็งธรรมชาติแล้ว มีไอติมทอด
คุณสมบัติสร้างความเย็น เป็นเรื่องรู้กันพอสังเขปมานาน แต่ยังไม่ได้ทดลองให้ได้ผลและประยุกต์
ใช้อย่างจริงจัง จวบจนกระทั่งถึงสมัยศตวรรษที่ 17 เทคนิคเยือกแข็งจากเกลือกับหิมะ จึงได้รับการ
ยอมรับกว้างขวางขึ้น การผลิตน้ำแข็งขึ้นเองเริ่มได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นขุนนางและเศรษฐี โดยไอติมทอด
เฉพาะอย่างยิ่ง การจำหลักน้ำแข็งทำเองเพื่อใช้ประดับบนโต๊ะอาหารและแช่ผลไม้ อย่างไรก็ตามไอติมทอด
สมัยนั้นอุตสาหกรรมการผลิตน้ำแข็งยังไม่เกิดขื้นเพราะน้ำแข็งธรรมชาติยังราคาถูกและหาง่าย ต่อ
เมื่อน้ำแข็งถุกใช้ในการถนอมอาหารสดเพื่อส่งไปขายในแดนไกลตามเงื่อนไขการคมนาคมที่เจริญมากขึ้นในปลายศตวรรษที่ 19 จึงเริ่มเกิด
อุตสาหกรรมทำน้ำแข็งขึ้นในสหรัฐอเมริกา ขยายตัวและแพร่ออกไปทั่วโลกในเวลาต่อมา เครื่องทำน้ำแข็ง
เครื่องแรกถูกสร้างขึ้นในทศวรรษ 1850 ต่อมาในออสเตรเลีย ปี ค.ศ. 1855 ก็สามารถสร้างเครื่องทำ
น้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สามารถผลิตน้ำแข็งอย่างต่อเนื่องสำหรับใช้ในโรงงานขึ้นเป็นเครื่องแรก ปี ค ศ
1916 จึงเริ่มผลิตตู้เย็นไฟฟ้าสำหรับใช้ตามบ้านเหมือนที่เราเห้นในปัจจุบันนี้

ไอศกรีมกาแฟ

art_41958500
ส่วนผสม
นมสด3 1/2 ถ้วย
ไข่แดง1/2 ฟอง
นมผง1 ถ้วย
วิปปิ้งครีม1 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง3/4 ถ้วย
กลิ่นกาแฟเล็กน้อย
กาแฟสำเร็จรูปชนิดเกล็ด2 1/2 ช้อนโต๊ะ
สีผสมอาหารสีน้ำตาลเข้ม (สีกาแฟ)เล็กน้อย

วิธีทำ
1. เทนมสดและน้ำตาลทรายแดงใส่เครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้น้ำตาลละลาย เติมนมผง ปั่นต่อให้ส่วนผสมเข้ากันไอศครีมทอด
2. ใส่ไข่แดง วิปปิ้งครีม กาแฟ น้ำตาลทรายแดง ปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกันไอศครีมทอด
3. เทส่วนผสมใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟให้ร้อนจัด (อย่าให้เดือด) หมั่นคน ยกหม้อลงแช่ในน้ำให้ส่วนผสมเย็น แล้วเทใส่กล่องพลาสติกปิดฝา บ่ม (แช่) ในตู้เย็นอย่างน้อย 4 ชั่วโมง แล้วจึงเติมสีและกลิ่นกาแฟ คนผสมให้เข้ากัน
4. นำส่วนผสมใส่เครื่องปั่นไอศกรีม ปั่นให้เป็นไอศกรีม (นานประมาณ 25 นาที) แช่ในตู้ไอศกรีมหรือช่องแช่แข็งจนแข็งไอศครีมทอด

หมายเหตุ
- ถ้าต้องการทำไอศกรีมรสช็อกโกแลตให้ใช้ผงโกโก้ (ตรานางพยาบาล) 4 ช้อนโต๊ะ แทนกาแฟสำเร็จรูปไอติมทอด
- ถ้าต้องการทำไอศกรีมรสม็อคคา ให้ใช้กาแฟสำเร็จรูป 2 1/2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะแทนไอติมทอด

ติมกาแฟ

Picture11969_thumb_up

ไอศกรีมกาแฟ

ส่วนผสมของไอศกรีมกาแฟ
  1. กาแฟแก่ ๆ 1/2 ถ้วยไอศครีมทอด
  2. นมสดชนิดจืด 1 /2 ถ้วย
  3. ไข่แดง 4 ฟองไอศครีมทอด
  4. น้ำตาลทรายละเอียด 1/2 ถ้วย
  5. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชาไอศครีมทอด
  6. วิปปิ้งครีม 1/3 ถ้วย
  7. โอโจ้รสช็อกโกแลต วิปปิ้งครีมและเม็ดสีต่างๆสำหรับตกแต่ง
วิธีทำไอศกรีมกาแฟ
  1. ต้ม นมสดในหม้อด้วยไฟกลางจนนมเริ่มเดือด ปิดไฟ พักให้เย็น ระหว่างนั้นก็ให้ตีไข่แดงด้วยตะกร้อในอ่างผสมจนข้นเป็นสีครีมนวล จึงค่อยๆ ใส่น้ำตาลและแป้งข้าวโพดลงไปพร้อมกับตีจนน้ำตาลละลาย แล้วใส่นมที่ต้ม คนให้เข้ากัน เทใส่ภาชนะ ยกขึ้นตั้งไฟกลาง หมั่นคนตลอดเวลาจนเนื้อเนียน พักไว้ให้เย็น แล้วใส่วิปปิ้งครีม กาแฟ ตีให้เข้ากันไอติมทอด
  2. เทส่วนผสมลงปั่นในเครื่องปั่นไอศกรีมตามขั้นตอน ใช้เวลาปั่นนาน 25-40 นาที จึงตักไอศกรีมลงในภาชนะเพื่อแช่แข็งต่อไ
  3. ตกแต่งไอศกรีมกาแฟให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ สำหรับ 5 คนไอติมทอด

Thursday, September 5, 2013

homemade ice cream

Picture11759_thumb_up
สูตรhomemade ice creamค่ะ เอามาจากหนังสือ may made
ส่วนผสม 
- นอนแดรี่วิปปิ้งครีม หรือ rich whip topping 2 ถต.
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำตาล 1/4 ถต.ไอศครีมทอด
- เกลือ 1/4 ชช.ไอศครีมทอด
- ไข่ขาว 4 ฟองไอศครีมทอด
- บิสกิตช็อกโกแลต 1 ถต.
- กลิ่นวนิลา 1/2 ชช.
วิธ๊ทำ 
1. เตรียมชามที่จะใส่ไอศครีมไว้
2. การตีครั้งนี้แบ่งเป็น 3 ชาม เริ่มกันที่ชามแรก
3. ตีไข่แดง น้ำตาล กลิ่นวนิลา ให้ฟูเหมือนตอนเวลาทำไข่เจียว ปริมาณจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อยสีของไข่จะอ่อนลง
4. ชามที่ 2 ตีเกลือกับครีม จนฟูไอติมทอด
5. ชามต่อไป ตีไข่ขาวให้ฟู ทดลองเอียงชามถ้าไข่ขาวติดชามไม่ไหลออกเป็นอันใช้ได้
6.จากนั้นกวาดวิปครีม ไข่ขาว และบิสกิตช็อกโกแลตสับลงในชามไข่แดงไอติมทอด
7.คราวนี้ใช้พายค่อยๆตะล่อมทุกอย่างให้เข้ากัน
8.เทใส่พิมพ์เคาะไล่ลม จากนั้นแช่ช่องแข็ง